ซิมโฟนี่ อัดงบ 600 ลบ. เร่งสปีดเพิ่มโครงข่ายทั่วประเทศรับปีมะเส็ง
ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น ทุ่มงบ 600 ลบ. เพิ่มการลงทุนปี 2556 เสริมแกร่งองค์กรเร่งขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่การบริการ เล็งเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ในทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง
คุณกรัณย์พล อัศวสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) ดำเนินกิจการเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สองประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเอง จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ภายใต้แบรนด์ “SYMPHONY” เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปี 2556 ว่าจะใช้งบประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนของบริษัทให้มีขอบเขตกว้างมากยิ่งขึ้นรองรับการเติบโตของบริษัททั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รับการบริการที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่
โดยแบ่งการลงทุนเป็น 2 ส่วน ดังนี้ 1.ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 300 ล้านบาท สำหรับการขยายโครงข่ายให้มีความพร้อมในการรองรับลูกค้าในต่างจังหวัด นอกเหนือจากจังหวัดหลักๆ ที่บริษัทให้การบริการอยู่แล้วเพื่อให้การบริการครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต 2.งบลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับการบริการลูกค้าเพื่อเป็นการรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามแผนการขยายพื้นที่ให้บริการของเรา
คุณกรัณย์พลกล่าวต่อถึงแผนระยะยาวที่บริษัทวางไว้ว่าบริษัทจะไม่ได้ดำเนินการขยายตลาดแค่ในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่บริษัทมีการเตรียมความพร้อมเพื่อให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนซึ่งประกอบด้วยหลายประเทศ อาทิ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นประเทศพื้นที่เป้าหมายของบริษัท เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในด้านการสื่อสารรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในอีก 3 ปีข้างหน้า
“การเปิดประเทศของพม่าทำให้มีการตื่นตัวค่อนข้างมาก ทุกคนก็อยากจะไปลงทุนที่ประเทศพม่าเพราะเป็นประเทศใหม่ที่เพิ่งเปิด ซึ่งประเทศสิงคโปร์และประเทศมาเลเซียก็อยากจะไปลงทุนที่ประเทศพม่าเช่นเดียวกัน แต่ในด้านการสื่อสารจะต้องผ่านประเทศไทย ดังนั้นเราจะเป็นตัวกลางในการดำเนินการ แต่ก็เป็นแผนระยะยาวของเรา รวมทั้งจะต้องได้รับความร่วมมือที่ดีจากประเทศเพื่อนบ้านด้วยจึงจะดำเนินการไปอย่างราบรื่นเพื่อทำให้โครงข่ายมีความพร้อมในการติดต่อการค้าในภูมิภาคนี้” คุณกรัณย์พลกล่าว
ด้านเป้าผลประกอบการคุณกรัณย์พลกล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มปีละ 15% ทุกๆ ปี และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากมีกลยุทธ์รองรับเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายคือการขยายพื้นที่บริการลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วถึงทุกพื้นที่ให้ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้สามารถทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายและเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต
ส่วนจุดเด่นของบริษัทคือเรื่องการให้บริการ ซึ่งบริษัทจะเน้นคุณภาพการบริการของบุคลากร โดยจะมีการอบรมพนักงานเป็นอย่างดี โดยจะมีการทดสอบเรื่อง Service Mind ก่อนมาสมัครงานและจะต้องผ่านการทดสอบก่อน บริษัทจึงจะรับเข้าทำงาน เนื่องจากเราต้องการให้ลูกค้าประทับใจในทุกครั้งที่มาติดต่อกับบริษัท รวมทั้งต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างรวดเร็วและผลงานออกมาอย่างมีประสิทธิผลและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
คุณกรัณย์พลกล่าวต่อถึงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ว่าบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี โดยได้มีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมที่สามารถให้บริษัทได้เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้ 4 ประเทศประกอบด้วย ลาว กัมพูชา มาเลเซีย พม่า และปัจจุบันบริษัทได้เชื่อมต่อการสื่อสารกับ กัมพูชา มาเลเซีย และลาว จะเหลือเพียงแค่ประเทศพม่าซึ่งมีแผนจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีนี้
ด้านคุณภาพมาตรฐานบริษัทได้รับผลประเมินการสำรวจรายงานการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียน โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2555 ในระดับ “ดีเลิศ” (เพิ่มสูงจากผลการประเมินในปีที่แล้วในระดับ “ดีมาก”)และอยู่ใน Top Quartile ของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าตลาด 3,000 – 9,999 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการประเมินคุณภาพการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2555 โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ในระดับ “ดีเยี่ยม”
สำหรับศักยภาพระดับประเทศในเวทีโลกบริษัทได้รับรางวัล “MEF Award” ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่น่าภูมิใจอีกหนึ่งก้าวที่บริษัทได้รับ ถือเป็นสิ่งที่รับประกันความน่าเชื่อถือและสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้นและผู้ใช้บริการ โดยเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่เข้าร่วมประกวด MEF Carrier Ethernet Service Provider of The Year (APAC) และได้รับคัดเลือกให้เข้ารอบสุดท้ายมาเป็นเวลา 4 ปีซ้อน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทเป็นผู้ให้บริการ Ethernet ที่มีศักยภาพสามารถเทียบชั้นกับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในระดับโลกได้
ทั้งนี้รางวัลที่ได้รับจากที่ผ่านมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งในความสำเร็จที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและศักยภาพที่บริษัทพร้อมจะเป็นผู้นำในหารให้บริการ รวมทั้งยังเป็นรากฐานที่มั่นคงซึ่งช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการบริการระดับพรีเมี่ยมเพื่อพัฒนาคุณภาพของการบริการให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต