ครัวเจ๊ง้อกับความสำเร็จกว่า 1 ทศวรรษ
คุณณชนก แซ่อึ้งหรือเจ๊ง้อ เจ้าของกิจการครัวเจ๊ง้อ ให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสารบิส โฟกัสในโอกาสครบรอบ 13 ปีแห่งความสำเร็จ และประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้
บิส โฟกัส : ครัวเจ๊ง้อเปิดดำเนินกิจการครบรอบกี่ปีในปัจจุบันและมีสาขาทั้งหมดกี่สาขา
เจ๊ง้อ : ปัจจุบันเราดำเนินกิจการครบรอบ 13 ปีและมีทั้งหมด9 สาขา ดังนี้ 1.สาขาสี่พระยา 2.สาขาบางมด 3.สาขาสาทร 4.สาขานราธิวาสราชนครินทร์ 5.สาขาซอยสุขุมวิท 20 6.สาขาถนนกาญจนาภิเษก 7.สาขาบางนา-ตราด 8.สาขาถนนรัชดาภิเษก และ 9.สาขาเกษตร-นวมินทร์ โดยที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มเปิดกิจการ ลูกค้าให้การตอบรับด้วยดีเสมอมา นับเป็นความภาคภูมิใจของเรากับความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในครั้งนี้
บิส โฟกัส : มีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในปี 2556 นี้หรือไม่และสาขาใดสร้างรายได้มากที่สุด
เจ๊ง้อ : ในปีนี้ยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่ม เนื่องจากเฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ ก็มากแล้ว ถ้าไปเปิดสาขาที่ต่างจังหวัดคงจะดูแลลำบากและอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง จึงอยากดูแลสาขาในกรุงเทพฯ ให้ดีที่สุดก่อน ส่วนรายได้ในแต่ละสาขาโดยเฉลี่ยจะพอๆ กัน โดยมีรายรับอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาท/สาขา แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลจะเพิ่มขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ โดยในช่วงระยะเวลาสองปีนี้ เศรษฐกิจมีแนวโน้มขึ้นๆ ลงๆ ดังนั้นในช่วงเวลานี้จะต้องระมัดระวัง ไม่เหมือนกับช่วงเปิดตัวแรกๆ ที่เศรษฐกิจยังดีอยู่
บิส โฟกัส : งบประมาณในการลงทุนแต่ละสาขา
เจ๊ง้อ : 10 ล้านบาท/สาขา เพราะต้องลงทุนเกือบทั้งหมด อาทิ ครัว ถ้วยชาม เสื้อผ้าพนักงาน เป็นต้น เพราะอยากให้สิ่งที่ลงทุนทุกอย่างออกมาดี ลูกค้าเห็นแล้วสบายตาและสบายใจและทำให้ภาพลักษณ์ของครัวเจ๊ง้อดีตามไปด้วย
บิส โฟกัส : จุดเด่นของครัวเจ๊ง๊อรวมถึงการบริการ
เจ๊ง้อ : จุดเด่นคือรสชาติอาหาร เรามีเมนูที่ลูกค้ายอมรับว่าอร่อย เช่น เส้นหมี่ผัดกระเฉด ปูผัดพริกไทยดำ เป็นต้น ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก เราก็พยายามทำให้ลูกค้าประทับใจในเรื่องอาหารและการบริการที่ดีกลับไปให้มากที่สุด เราอยากให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารยิ้มกลับไปเมื่อมารับประทานอาหารครัวเจ๊ง้อ
บิส โฟกัส : พนักงานประจำของครัวเจ๊ง๊อมีประมาณกี่คน
เจ๊ง้อ : ขึ้นอยู่กับพื้นที่ทำเลด้วย ถ้าสาขาใหญ่ พนักงานก็จะมากด้วยเช่นกันแต่ถ้าเป็นตึกแถวจะมีประมาณกว่า 20 คน เฉลี่ยแล้วรวมทุกสาขามีพนักงานประจำประมาณ 100 คน มีทั้งฟูลไทม์และพาร์ทไทม์ ด้านการทำงานจะใช้หลักกการทำงานเหมือนพี่เหมือนน้อง ไม่คิดว่าเป็นลูกจ้าง ถ้าเราเลี้ยงเขาดี เขาก็จะดีกับเรา ร่วมงานกันด้วยใจ เข้าใจกัน เราซื้อใจกันด้วยใจมากกว่าเงิน
บิส โฟกัส : ภาพรวมของธุรกิจอาหารในปี 2556 นี้
เจ๊ง้อ : ธุรกิจร้านอาหารมีความไม่แน่นอนทั้งค่าใช้จ่าย ราคาค่าครองชีพ เราต้องอดทน พยายามอย่าให้ขาดทุน เพราะไม่รู้นะว่าราคาของจะขึ้นเมื่อใด อย่างเช่นในปัจจุบัน ค่าแรงขั้นต่ำปรับเพิ่มเป็น 300 ไม่ว่าจะทำงานเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม แต่เราก็พยายามไม่ให้ให้ขาดทุนให้พอทรงตัวอยู่ได้ ส่วนคู่แข่ง ตนมองว่าไม่ได้แข่งขันกันดุเดือดและในปีนี้มีต่างชาติเข้ามาเยอะ ส่งผลทำให้ธุรกิจอาหารในประเทศดีขึ้นตามด้วย
บิส โฟกัส : มีทัวร์ชาวต่างชาติมาลงมากไหม
เจ๊ง้อ : ค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นทัวร์เอเชียหลายประเทศ อาทิ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นต้น และตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 จะมากันเยอะ เพราะมีเทศกาลทั้งปีใหม่ไทยและตรุษจีน
บิส โฟกัส : รายละเอียดโรงเรียนสอนทำอาหาร
เจ๊ง้อ : ปัจจุบันเราเปิดโรงเรียนทำอาหารของครัวเจ๊ง๊อทุกเมนู ตั้งอยู่ที่สี่พระยา ตรงข้ามกับครัวเจ๊ง๊อสาขาหนึ่ง มีนักเรียนทั้งชาวไทยและต่างชาติ และในช่วงนี้ชาวต่างชาติมาเรียนเป็นส่วนใหญ่ เช่น อังกฤษ อเมริกา เป็นต้น ถ้าเป็นคนไทยก็มักจะเป็นคุณหญิง คุณนาย โดยคอร์ทหนึ่งสอนทำอาหาร 4-5 เมนูในราคา 9,000 บาท ในปีนี้มีนักเรียนมาเรียนราวๆ 50-60 คน แต่ยังไม่นับว่าเยอะมาก ส่วนการสอนชาวต่างชาติเรามีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้ รวมทั้งแปลหนังสือออกมาจำหน่ายด้วย
ด้านกระแสตอบรับนับว่าดีต่อเนื่องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เพราะขณะนี้มีนักเรียนไม่มาก แต่เราทำแล้วมีความสุข ยังไม่ได้พูดถึงกำไร เราก็อายุ 75 แล้ว เราจะเก็บความรู้นี้ไว้ทำไม คิดว่าเปิดโรงเรียนสอนให้นักเรียนไปทำมาหากิน ซึ่งเป็นคอร์ทระยะสั้นสอนเสร็จภายในวันเดียว บางครั้งครึ่งวันก็จบแล้วแต่ก็ไม่ได้มีทุกวัน ขึ้นอยู่กับนักเรียนว่าสะดวกวันใหนส่วนมากจะเป็นวันเสาร์และอาทิตย์