ไตร พร็อพเพอตี้ปลื้ม “ZCAPE X2” แรงต่อเนื่อง
ไตร พร็อพเพอตี้ ฟุ้ง “ZCAPE X2” แรงดีไม่ตก ลูกค้าให้การตอบรับดีด้วยยอดขาย 80% ณ ปัจจุบัน เตรียมเดินหน้าลงทุนระยะสั้น กลาง ยาว มูลค่าเฉียด 2,000 ลบ. ลั่นลูกค้าไม่ต้องวิตกคอนโดฯ สร้างเสร็จ 100% ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้ 1,500 ลบ.
คุณอดิศร วิเวกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการ “ZCAPE X2” ว่าหลังจากที่บริษัทได้เปิดพรีเซลล์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมาปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ประมาณ 80% แบ่งเป็นลูกค้าคนไทย 70% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและชาวต่างชาติ 30% ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายได้ในช่วงหลังสงกรานต์อย่างแน่นอน โดยโครงการจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนกันยายน ใช้งบประมาณในการดำเนินการ 400 ล้านบาท และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณควอเตอร์ 3 ของปี 2557
“เรามั่นใจว่าจะสามารถปิดยอดขายได้ก่อนที่มีการก่อสร้างโครงการอย่างแน่นอน และไม่ได้กังวลกับอีก 20% ที่เหลือจากการขาย ทั้งนี้หากปิดการแล้วยังมีส่วนที่เหลือ เราก็จะเก็บไว้ทำกำไรเองและจะไม่ปล่อยขาย เพราะปัจจุบันราคาเฉลี่ยทั้งโครงการจะอยู่ที่ 2.1 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากราคาสูงสุดของโครงการ 1.95 ล้านบาทที่ได้มีการเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา” คุณอดิศรกล่าว
สำหรับการทำตลาดโครงการนี้จะแตกต่างจากโครงการ ZCAPE Condominium ที่สามารถปิดการขายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเพียง 3 สัปดาห์ ซึ่งบริษัทไม่ได้เร่งรีบที่จะขาย เพราะมั่นใจว่ามีลูกค้าต้องการซื้อจำนวนมาก เพราะโปรดักส์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีรูปแบบการอยู่อาศัยในมุมมองแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด Design ServingYour Desire หรือมิติการใช้ชีวิตไม่ได้มีด้านเดียว โดยผสมผสานไอเดียการใช้ชีวิตที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว อีกทั้งตัวอาคารยังได้รับการออกแบบให้ใส่ใจเรื่องของฟังก์ชั่นและการจัดพื้นที่รองรับกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยในแต่ละวัน
ประกอบกับบริษัทต้องการให้คนพื้นที่ภูเก็ตได้มีโอกาสซื้อมากกว่าคนจากพื้นที่อื่นและจำกัดให้ลูกค้า 1 ชื่อ สามารถซื้อได้เพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยต้องการกระจายให้ทุกคนได้มีโอกาสซื้อโครงการดีๆ เมื่อทุกคนมีความสุขบริษัทก็มีความสุขด้วยเช่นกัน
ด้านคุณชัยวัฒน์ ตันติวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารด้านการเงินและการลงทุน บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ จำกัด กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 2556 ว่ามีแผนการลงทุนดังนี้ 1.โปรเจคในระยะใกล้ภายในเดือนสิงหาคม – กันยายน ปี 2556 มูลค่าการลงทุนประมาณ 850 -900 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการสรุปว่าจะเป็นโครงการแบบใด
2.โปรเจคในระยะกลางคือในช่วงปลายปี 2556 มูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยกำลังวิเคราะห์หาข้อสรุปว่าจะเป็นแบบใดซึ่งอาจจะเป็นโรงแรมหรือที่พักให้เช่า คาดว่าภายในปลายปีนี้น่าจะสรุปความชัดเจนได้ โดยทั้ง 2 โปรเจคจะตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับไว้แล้ว โดยมูลค่าการลงทุนทั้ง 2 โปรเจครวมเกือบ 2,000 ล้านบาท
3.โปรเจคในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาพื้นที่ที่ดินในกรุงเทพฯ และตามจังหวัดหลักๆ ของประเทศไทยที่มีผลในเชิงบวกสำหรับการเข้ามาของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC รวมทั้งพิจารณาในด้านการคมนาคมที่รัฐบาลจะออกแผนผังการคมนาคมและปัจจัยอีกหลายๆ ด้านเพื่อหาข้อสรุป คาดว่าปี 2556 -2557 น่าจะมีโอกาสได้เห็นว่าจะเป็นโครงการแบบใด
คุณชัยวัฒน์กล่าวต่อถึงแนวโน้มฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้ ตนมองว่าไม่น่ากลัวซึ่งมองในองค์รวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พบว่ายังดีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบริษัทก็ไม่ได้ประมาทโดยมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในทุกด้านอยู่แล้วแต่ไม่ได้ตื่นกระแสจนเกินไป และคาดว่าในอนาคตในอีก 2-3 ข้างหน้าไม่น่าจะเกิดฟองสบู่เนื่องจากมีการเข้ามาของ AEC เข้ามาสนับสนุน
“ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้เรามั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ฟองสบู่แตกและลูกค้าก็ไม่ต้องกังวลว่าโครงการต่างๆ ของบริษัทที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่จะไม่แล้วเสร็จเพราะไม่มีเงินมาสนับสนุน ในส่วนนี้เรามีเงินที่สำรองจ่ายซึ่งเป็นเงินสดของบริษัทไว้รองรับอยู่แล้ว ขอให้ลูกค้าสบายใจในจุดนี้ เราการันตีว่าจะไม่มีทิ้งการก่อสร้างกลางคันอย่างแน่นอน ลูกค้าจะต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุดกลับไปจากเราแน่นอน” คุณชัยวัฒน์กล่าว
สำหรับเป้าผลประกอบในปี 2556 ตั้งเป้ารายได้ 1,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากมีกลยุทธ์ทางด้านการตลาดรองรับไว้เป็นอย่างดี ด้านอัตราการเติบโตบริษัทตั้งเป้าให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25-30% ต่อเนื่องทุกปี โดยเป็นการเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมๆ กับลูกค้า