ดร.ณัฐพล นำทีม Big Brothers ลุยวิจัยเต็มสูบพัฒนาน้ำผึ้งชันโรง

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

ดร.ณัฐพล นำทีม Big Brothers ลุยวิจัยเต็มสูบพัฒนาน้ำผึ้งชันโรง ขยายผลสู่ 3 จังหวัดนำร่อง ยกระดับคุณภาพ เล็งปั้นแบรนด์ไทยเทียบมานูก้านิวซีแลนด์

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ประกาศเจตนารมณ์ ยกระดับอุตสาหกรรมน้ำผึ้งชันโรง ด้วยเครือข่าย Big Brothers จากภาคส่วนต่าง ๆ ต่อยอดพัฒนาสูตรอาหารสำหรับการเลี้ยงผึ้งในพื้นที่ นำร่อง 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดระยอง สมุทรปราการ และลำปาง ขยายผลต่อการเป็นแบรนด์สินค้าคุณภาพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน พร้อมตั้งเป้าหมายก้าวสู่การเป็นแบรนด์สินค้าระดับประเทศ คุณภาพเทียบเท่าน้ำผึ้งมานูก้านิวซีแลนด์

ดร. ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร อัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็พบว่ายังมีศักยภาพความพร้อมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายในประเทศให้มีศักยภาพตามเจตนารมณ์ของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มอบนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยไปสู่ “อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต” ซึ่งเป็นทิศทางที่สามารถนำพาประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤตการผ่านเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ด้วยต้นทุนทางการเกษตรดั่งเดิมของประเทศต่อยอดไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมเพื่อหล่อเลี้ยงผู้คนทั่วโลก และเป็นฐานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขานรับเป้าหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยได้ขับเคลื่อนรูปธรรมผ่านนโยบายดีพร้อมแคร์ (DIPROM CARE) ในการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเป็นเครือข่าย Big Brothers หรือ เครือข่าย Social Enterprise ที่ประกอบไปด้วยภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้มีการร่วมทำงานเพื่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยในปีนี้มุ่งเป้าไปที่ การเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรฟาร์มผึ้ง ผ่านการส่งเสริมการเลี้ยงผึ้งชันโรงที่มีคุณสมบัติพิเศษและราคาแพงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี โดยอาศัยการวิจัยมาใช้ประโยชน์ ภายใต้ความร่วมมือของสมาชิกเครือข่ายฯ พัฒนาการเพาะเลี้ยงและพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมกับผึ้งชันโรงในแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งปัจจัยสำคัญคือการเพิ่มคุณค่าของน้ำผึ้งชันโรงที่ผลิตได้ เพื่อให้มีคุณภาพและมูลค่าสูงขยายผลไปสู่การผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย

ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะนำร่องของการดำเนินงาน กำหนดเป้าหมายพัฒนาผลิตภัณฑ์ น้ำผึ้งชันโรงในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการในชุมชนบางน้ำผึ้ง และจังหวัดลำปาง เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ในแต่ละพื้นที่ชุมชน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของ “ชันโรงระยอง” “ชันโรงบางน้ำผึ้ง” และ “ชันโรงลำปาง” ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และพัฒนาในส่วนของขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิตน้ำผึ้งชันโรงให้มีปริมาณมากกว่า 5 ลิตรต่อวันต่อพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยการวิจัยเชิงลึกเพื่อศึกษาสูตรอาหารสำหรับเลี้ยงผึ้ง โดยในแต่ละพื้นที่จะใช้สูตรที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ และปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าในระยะเริ่มต้นได้ไม่น้อยกว่าปีละ 20 ล้านบาท

“สำหรับในระยะต่อไป ตั้งเป้าวิจัยต่อเนื่องเกี่ยวกับคุณค่าสารอาหารที่มีเฉพาะในน้ำผึ้งชันโรง เพื่อยกระดับจากแบรนด์สินค้าประจำจังหวัด ไปสู่แบรนด์สินค้าระดับประเทศ ที่มีคุณภาพผลิตภัณฑ์และคุณภาพของสารอาหารเฉพาะ เทียบเท่าน้ำผึ้งมานูก้า (Manuka Honey) สินค้าขึ้นชื่อของประเทศนิวซีแลนด์ ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก สามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในปีที่ผ่านมามูลค่ากว่า 1.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ...” ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

โดยดีพร้อมได้จัดกิจกรรมประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือ “Big Brothers…นำชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคม...น้ำผึ้งชันโรง” ณ ห้องบอลรูม 3 ชั้น 2 โรงแรม เดอะ สุโกศล เพื่อตอกย้ำปณิธานความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมน้ำผึ้งชันโรงไปสู่การเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระดับประเทศ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6873 ต่อ 4 ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dipromindustry หรือ www.diprom.go.th