Q2 กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโครโตต่อเนื่อง บวกโลตัสแนวโน้มสดใส

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

Q2 กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโครโตต่อเนื่อง บวกโลตัสแนวโน้มสดใส

ภาพรวมรายได้ครึ่งปีแรก 229,680 ล้านบาท พร้อมโชว์กำไรแข็งแกร่ง โตเกือบ 20% ปัจจัยบวกทุกมิติ อีคอมเมอร์ส O2O อาหารสดและ มอลล์ สดใส

กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ผลประกอบการครึ่งปีแรกสดใส สะท้อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากทั้งแม็คโครโตต่อเนื่อง และโลตัสกลับมาโตทุกมิติ ด้วยกำลังซื้อที่กลับมาฟื้นตัว ผนวกจุดแข็งด้านอาหารสด ความสำเร็จจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ และธุรกิจค้าปลีกโลตัสมีรายได้เพิ่มจากการกลับมาเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ ตลอดจนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดขาย O2O (Online – to - Offline)

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจแม็คโคร เปิดเผยว่า ไตรมาสสองของปี 2565 กลุ่มธุรกิจแม็คโคร ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มค้าส่งแม็คโครเติบโตได้จากธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมที่กลับมาฟื้นตัว ประกอบกับการเติบโตของยอดขายจากทั้งสาขาเดิม และการเปิดสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะแม็คโคร กัมพูชา ที่มีผลประกอบการเป็นบวกมาหลายไตรมาส รวมถึงธุรกิจฟูดเซอร์วิสที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนกลุ่มค้าปลีกโลตัส กลับมาเติบโตจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ การรีแบรนด์สาขา การพัฒนาสินค้าอาหารสด รวมทั้งการเปิดตัวแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายออนไลน์ ‘โลตัส สมาร์ท แอปพลิเคชั่น’ ทำให้บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาสสอง 118,463 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.6 % และมีกำไรสุทธิ 1,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีรายได้รวมทั้งสิ้น 229,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,623  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตของธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ประกอบด้วย

“นอกจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C แล้ว เราจะเดินหน้ายุทธศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้อย่างต่อเนื่อง ในการเติบโตมุ่งสู่การเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีกของภูมิภาค พร้อมกันนี้เราจะใช้ศักยภาพเข้าไปช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ให้ทั้ง SME และเกษตรกรรายย่อยเติบโตไปด้วยกัน” นายธานินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปี 2565 จะกลับมาขยายตัวอยู่ที่ราว 11% คิดเป็นมูลค่า 3.45 ล้านล้านบาท จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค การเพิ่มขึ้นของรายได้ภาคเกษตร และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ทำให้ภาพรวมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีแนวโน้มเติบโต และเข้าสู่การฟื้นตัวเต็มรูปแบบ