คุณคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่าที่ผ่านมาสมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรมสีม่วงเข้ม เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมและขนส่งโลจิสติกส์ โดยมีผู้ประกอบการจำนวนมากเข้ามาลงทุน จึงทำให้สมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรมหนาแน่น และอุตสาหกรรมบางประเภทส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในปีนี้จังหวัดสมุทรปราการจึงเน้นนโยบายอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อเปลี่ยนแปลงให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมสะอาดที่น่าอยู่และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยในส่วนภาคอุตสาหกรรมจะผลักดันให้มีการใช้พลังงานทดแทน ด้วยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาใช้แทนแสงสว่างจากไฟฟ้าบนหลังคาโรงงาน ซึ่งจะช่วยทำให้ประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก โดยโครงการนี้กระทรวงพลังงานกำลังเริ่มวางแผนที่จะนำร่องที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นที่แรก ขณะนี้ได้เชิญภาคประชาชน ชุมชน ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเข้ามาร่วมช่วยกันดูแล
คุณคณิต กล่าวถึงนโยบายการสนับสนุนการท่องเที่ยวว่าจังหวัดสมุทรปราการมีแหล่งวัฒนธรรมเชิงประเพณี ประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรม รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีความสวยงามเป็นจำนวนมากและสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่มารอการเปลี่ยนเที่ยวบินซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงได้เป็นอย่างดี อาทิ ป้อมพระจุลฯ วัดขุนสมุทร เมืองโบราณ ช้างสามเศียร ประเพณีรับบัว เป็นต้น ด้านแหล่งอาหาร จะมีอาหารทะเล หรือผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อ ปลาสลิดบางบ่อ โดยทางจังหวัดจะเน้นต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เพิ่มมูลค่าพัฒนาประชากรในตัวเอง
“ในช่วงระหว่างที่นักท่องเที่ยวรอเปลี่ยนเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางจังหวัดก็จะมีกิจกรรมพานักท่องเที่ยวเที่ยวตลาดน้ำบางพลี บ้านสวน ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ซึ่งการเดินทางจะใช้เวลาไม่มาก เรามองว่าทางบางบ่อมีพื้นที่สีเขียว และจะนำมาใช้ประโยชน์ตรงนี้เพื่อสร้างรายได้ให้แก่พี่น้องชาวสมุทรปราการ เพราะว่านักท่องเที่ยวมีกำลังจ่ายที่สูงเหมือนการเข้าห้าง ไม่มีทางที่จะออกมามือเปล่า อย่างน้อยก็จะต้องมีการใช้จ่ายเพื่อซื้ออาหารรับประทานและซื้อของฝาก” คุณคณิตกล่าว
ส่วนปัญหาที่จังหวัดสมุทรปราการกำลังประสบในปัจจุบันคือการจราจรติดขัด เนื่องจากเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยในเขตพื้นที่ปริมณฑล นนทบุรี และกรุงเทพฯเกิดภาวะน้ำท่วมส่งผลให้ประชาชนจำนวนมาก ได้มีการย้ายบ้านและผู้ประกอบการบ้านจัดสรรได้เข้ามาก่อสร้างที่จังหวัดสมุทรปราการ ประกอบกับการสร้างทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-ตำหรุ ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างหลายปี
ขณะนี้บริษัทสัมปทานแก้ปัญหาดังกล่าวโดยจะพยายามใช้พื้นที่ก่อสร้างในบริเวณผิวจราจรให้น้อยที่สุด และการก่อสร้างจะเน้นทำงานในภาคกลางคืนมากขึ้นโดยเฉพาะจุดที่ชุมชนหนาแน่น รวมทั้งการขนย้ายสิ่งสาธารณูปโภคที่ฝังตัวอยู่ใต้เส้นทาง เพื่อเอาโครงสร้างเดิมออกและนำโครงสร้างของรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ามาแทน
“การแก้ไขปัญหาจราจร เช่น ทางเบี่ยง จุดอับ ป้ายสัญญาณ ป้ายบอกเส้นทางข้างหน้า จะเป็นหน้าที่ของตำรวจเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งทางตำรวจจะรู้เรื่องนี้ และจะสามารถตั้งงบประมาณที่จะจัดทำป้าย เพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนให้สอดรับกับการเติบโตของผู้คน ที่จะมาอาศัยและมาใช้ชีวิตที่จังหวัดสมุทรปราการ” คุณคณิตกล่าว