ซี.พี.แอล. เปิดแผนธุรกิจหนุนองค์กรโต / Issue 017, June 2014

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

ซี.พี.แอล. เปิดแผนธุรกิจหนุนองค์กรโต

คุณสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.แอล.กรุ๊พ จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสารบิส โฟกัส โดยตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้ 1,800  ล้านบาท พร้อมวางแผนการดำเนินงานระยะกลางและยาวดันธุรกิจเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ดังนี้   

บิส โฟกัส : รายละเอียดเกี่ยวกับ ซี.พี.แอล.

คุณสุวัชชัย : เราดำเนินธุรกิจผลิตหนังวัวฟอกสำเร็จรูป ซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะด้าน ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของตราสินค้า (Brand Name) อาทิ Timberland ,  Adidas  เป็นต้น โดยในช่วงเริ่มต้นธุรกิจจะมีแบรนด์ Nike ด้วย แต่ปัจจุบัน Nike ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศแล้ว เราอยู่ในซัพพลายเออร์ลิส หมายความว่าคู่แข่งในเมืองไทยที่เป็นสัญชาติไทยด้วยกันแล้วไม่มี ทุกวันนี้คู่แข่งจะอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด ส่วนการสั่งออเดอร์จะมีคอมมิตเม้นท์ระหว่างลูกค้ากับเรา โดยประมาณ 90% จะเป็นออเดอร์ที่สั่งผ่านแบรนด์ ซึ่งจะไม่ใช่ออเดอร์ที่ลูกค้าทั่วไปเดินเข้ามาสั่ง แต่ก็มีบ้างในสัดส่วนประมาณ 10%

ปัจจุบันออเดอร์ของเราจะมาจาก Timberland 30% Adidas 30% และอื่นๆ 40% อาทิ รองเท้ากีฬา รองเท้าบูธ รองเท้าทั่วไป รองเท้าปีนเขา เป็นต้น ขณะนี้ออเดอร์ที่เราได้รับจะเป็นออเดอร์ ที่ลูกค้าจะทำการผลิตสินค้าสำหรับปลายปีนี้และต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นปีหน้า

บิส โฟกัส : เป้าผลประกอบการในปีนี้

คุณสุวัชชัย : ออเดอร์ของเราจะอยู่ที่ 24 ล้านตารางฟุต หรือคิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท มาโดยตลอดทุกปี ส่วนในปีนี้ เรามีความมั่นใจว่าจะอยู่ในระดับนี้เช่นกัน เนื่องจากสินค้าของเราจะจำหน่ายในต่างประเทศ โดยตลาดหลักจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ถึงแม้ว่าปัจจุบันศูนย์การผลิตรองเท้าจะอยู่ที่เอเชียก็ตาม อย่างเช่น อินโดนีเซีย จีน เวียดนาม ซึ่งเราได้จัดส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้และเขาก็จะส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา ยุโรปเพื่อผลิตเป็นรองเท้าต่อไป  

ประกอบกับปัจจุบัน ปริมาณการสั่งซื้อรองเท้าจากสหรัฐอเมริกา มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก หลังจากประสบปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติอย่างเช่น พายุหิมะ เป็นต้น ส่งผลให้สต็อกสินค้าของลูกค้าเหลือน้อย ทำให้มีการสั่งซื้อเพิ่มเติมขึ้นมามาก ส่วนในโซนยุโรป ในปีนี้มีสัญญาณการใช้เงินที่มากขึ้น ไม่ได้ลดลงไปมากกว่าเดิม ทั้งนี้ตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะบาลานซ์กัน หากตลาดสหรัฐอเมริกาลดลง ตลาดในยุโรปก็จะขึ้น นอกจากนี้เรายังไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินเพราะในการซื้อสินค้าและจำหน่ายสินค้า เราจะใช้เงินสกุลดอลลาร์

บิส โฟกัส : ในอนาคตหากมีออเดอร์เพิ่มมากขึ้นจะมีการขยายกำลังการผลิตอีกหรือไม่

คุณสุวัชชัย : เรามีแผนระยะกลางและระยะยาวซึ่งจะรวมอยู่ด้วยกัน โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราได้ซื้อที่ดินจำนวน 22 ไร่ มูลค่า 90 ล้านบาทซึ่งพื้นที่ติดกับโรงงาน เนื่องจากผู้บริหารมองว่าในอนาคต หากมีออเดอร์เพิ่มขึ้น เราก็จะมีการขยายโรงงาน ขยายไลน์การผลิตมากขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ ยกตัวอย่างเช่น เบาะรถยนต์ ช่วงนี้อาจสะดุดเพราะหมดนโยบายรถยนต์คันแรก แต่ถ้ามีโครงการหรือนโยบายใหม่เกิดขึ้น  ถ้ามีปริมาณการสั่งซื้อหรือปริมาณเบาะรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น เราสามารถที่จะขยายรองรับการผลิตเบาะรถยนต์ได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านตารางฟุต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากธุรกิจเบาะรถยนต์ไปได้ไม่ดีพอหรือว่ามีธุรกิจอื่นๆ หรือไลน์ใหม่ๆที่เสริมเข้ามา เราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้โดยจะอยู่ในธีมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมที่เราทำอยู่แล้ว

นอกจากนี้เรายังมีแผนระยะกลางอีกหนึ่งโปรเจคที่อยู่ระหว่างการหารือ  ว่าอย่างเร็วภายใน  3-5 ปี เราจะต้องมีโปรดักส์ไลน์ตัวใหม่เข้ามาเสริมองค์กร ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าสำเร็จรูป ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันเราทำแค่รองเท้า แต่ใน 3-5 ปี อาจจะมีการผลิตสินค้าที่เป็นรองเท้าคัตชูออกสู่ตลาด เป็นต้น อย่างไรก็ตามเรากำลังมองว่าธุรกิจนี้เหมาะสมกับที่เราจะลงไปดำเนินการหรือไม่

ส่วนปริมาณการลงทุนในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมราคาที่ดิน โดยจะเป็นการพัฒนาที่ดินและอีกส่วนหนึ่งถ้าเป็นไปได้เราอาจจะมีการปรับปรุงไลน์การผลิต ซึ่งจะมีการย้ายเครื่องจักรหรือมีการสั่งซื้อเพิ่มเติมเข้ามาบางส่วนเพื่อทดแทนเครื่องจักรเดิมที่ชำรุด รวมถึงการจัดไลน์การผลิตใหม่เพื่อให้การถ่ายทอดงานหรือการส่งต่อมีความชัดเจนและรัดกุมมากขึ้น ทั้งนี้เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วจะทำให้เรารู้ว่าที่ดินใหม่ที่เราจะลงทุนจะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านใดได้บ้าง

บิส โฟกัส : โรงงานใหม่จะเริ่มก่อสร้างได้เมื่อใด

คุณสุวัชชัย : ตามแพลนแล้วถ้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดี เราคิดว่าคงจะเริ่มเลย อาจจะเห็นเค้าโครงตัวโรงงานไม่น่าเกินกลางปีหน้า 

บิส โฟกัส : หลักการบริหารท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

คุณสุวัชชัย : เราบริหารแบบคอนเซอร์เวทีฟคือค่อยๆ ทำไป แล้วก็ดูให้ชัดเจน โดยผู้บริหารรุ่นคุณพ่อหรือรุ่นก่อตั้งจะสอนเราว่าสิ่งที่เราทำอยู่จะต้องทำได้จริง สิ่งที่เราพูดอยู่ต้องเป็นความจริง ถ้าเราพูดแล้วเราทำไม่ได้อย่าไปพูดเลยดีกว่าและการทำงานจะต้องมีความชัดเจนในหน้าที่ที่ต่างคนต่างมีความรับผิดชอบให้ดีที่สุด

บิส โฟกัส : ความสำเร็จของ ซี.พี.แอล.ในปัจจุบัน

คุณสุวัชชัย : ถ้ามองในมุมของคุณพ่อที่เริ่มเปิดบริษัทมาจนถึงทุกวันนี้ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องดำเนินต่อไปคือมีธุรกิจใดที่จะสามารถขยายให้เกิดผลมากกว่านี้ เพราะว่าจากเดิมที่เราทำกันมาจากยอดขาย 300-500 ล้านบาท จนมาถึง 1,800 ล้านบาทและมีอยู่ปีหนึ่งมียอดขายเกือบถึง 2,000 ล้านบาท นับว่าสำเร็จในมุมมองของการทำงานแล้ว อย่างไรก็ตาม เป้ายอดขายที่เราอยากได้และตั้งไว้ตลอดคือ 2,000 ล้านบาท แต่จะขึ้นอยู่กับโปรเจคใหม่ที่เรากำลังดำเนินการอยู่และโรงงานที่จะสร้างใหม่ด้วย มันเป็นเป้าหมายที่เราต้องทำให้ได้ในอนาคต

บิส โฟกัส : การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า

คุณสุวัชชัย : ซี.พี.แอล.เป็นโรงงานฟอกหนังที่ดำเนินงานมามากกว่า 50 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ส่วน 25 ปีคือซี.พี.แอล. เพราะฉะนั้นความรู้ต่างๆ และสิ่งที่ทำอยู่คือเรามุ่งมั่นที่จะทำหนังที่มีคุณภาพ ส่งออกไปค้าขายในตลาดโลก โดยสินค้าของเราเป็นที่ยอมรับของแบรนด์ดังๆ ระดับโลกมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ดำเนินงานมา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภูมิใจเป็นอย่างมาก 

นอกจากนี้เรายังเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและการันตีความเชื่อมั่นด้วยมาตรฐานต่างๆ ที่เราได้รับ โดยห้องแล็บของเราได้รับการยอมรับจาก SATRA ซึ่งเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษเป็นผู้ตรวจระบบการทำงานเกี่ยวกับประกันคุณภาพสินค้าของเราเป็นประจำทุกปี