December 22, 2024
01Top_Nine-Plus

“ดีพร้อม” เผยผลงาน RESHAPE THE FUTURE

User Rating: 3 / 5

Star ActiveStar ActiveStar ActiveStar InactiveStar Inactive
 

“ดีพร้อม” เผยผลงาน RESHAPE THE FUTURE ปรับฐานการผลิตไทยสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต

          “ดีพร้อม” เผยความคืบหน้านโยบาย RESHAPE THE FUTURE มุ่ง 3 กลยุทธ์ ผ่านเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM CONNECTION) ปรับอุตสาหกรรมไทยพร้อมรับกับอนาคตที่เปลี่ยนไป เดินหน้าจับมือเมติเพิ่มศักยภาพให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ผนึก GISTDA ลุยอุตสาหกรรมอวกาศ หวังต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต

พร้อมผลักดันไทยสู่ ASEAN COCOA HUB ปูทางไปสู่ผู้ผลิตอาหาร “ซุปเปอร์ฟู้ด” และสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ SME ผ่านทางโครงการ "ติดปีกเอสเอ็มอี หลักทรัพย์ ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้" รวมทั้งดึงไปรษณีย์ไทยสนับสนุนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าถึงช่องทางและโอกาสทางการตลาด ตลอดจนหารือกับ สกสว. เพื่อเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อยอดไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์

          นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า หลังจากที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม ได้วางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในปี 2567 ภายใต้นโยบาย RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต เพื่อเป็นกรอบทิศทางการดำเนินงานที่สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงระดับโลก (Megatrends) ภายใต้ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและสังคมโลกยุคใหม่ ซึ่งได้เร่งเดินหน้าตามนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ผ่านการขยายเครือข่ายความร่วมมือ (DIPROM CONNECTION) โดยนโยบาย RESHAPE THE FUTURE ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์ที่สำคัญ คือ

  1. ปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) ผ่านการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DIGITAL TRANSFORMATION) ซึ่งในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ได้รับฟังข้อคิดเห็นและปัญหาจากสมาคมเครือข่าย และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และสนับสนุน เพื่อจัดทำแผนการส่งเสริมให้ได้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหนึ่งในความคืบหน้าที่สำคัญ คือ การทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ของประเทศญี่ปุ่น ในการนำผู้เชี่ยวชาญและเทคโนโลยีด้านยานยนต์เข้ามาช่วยพัฒนาด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน รวมถึงมีความพร้อมรองรับการผลิตชิ้นส่วนที่ตอบสนองต่อความต้องการในอนาคตของอุตสาหกรรมนี้

    อีกทั้ง ยังได้หารือสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรมอวกาศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากอุตสาหกรรมอวกาศจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงในทุก ๆ ด้าน นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ ด้วยการผลักดันการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลในภาคอุตสาหกรรมและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยในช่วงกลางปี 2567 ดีพร้อม เตรียมเปิดตัวโครงการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการฯ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างทันท่วงทีด้วย อาทิ สถานการณ์น้ำท่วม ภัยแล้งจากภาวะเอลนีโญ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับภาคอุตสาหกรรมโดยรวม
  1. ปรับเปลี่ยนการพัฒนาเชิงพื้นที่ (RESHAPE THE AREA) ผ่านการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค (ECONOMIC CORRIDOR) ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลักดันนโยบายการพัฒนาโกโก้สู่การเป็น ASEAN COCOA HUB เนื่องจากโกโก้เป็นผลผลิตการเกษตรที่มีมูลค่าสูงและยังเป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นอาหารซุปเปอร์ฟู้ดที่เป็นหนึ่งในนโยบายที่สำคัญในการยกระดับจากการเป็นผู้ผลิตอาหารแปรรูป ไปสู่ผู้นำในการผลิตอาหารซุปเปอร์ฟู้ด โดยจะใช้ศักยภาพด้านการเกษตรที่แข็งแกร่งของไทยบวกกับความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีในการผลิตอาหารแปรรูป จึงทำให้ไทยมีโอกาสสูงในด้านการเป็น ASEAN COCOA HUB ในอนาคตอันใกล้นี้

    นอกจากนี้ ยังได้ปรับแนวทางการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนภายใต้แนวคิด “ชุมชนเปลี่ยน เปลี่ยนชุมชนให้ดีพร้อม” (Community Transformation) โดยได้ร่วมมือกับ Toyota ยกระดับการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนในรูปแบบการบริหารจัดการกระบวนการผลิตด้วยหลักการ Toyota Production System (TPS) ซึ่งหลังจากนี้ ดีพร้อมจะต่อยอดขยายความร่วมมือกับบริษัทขนาดใหญ่ทั้งของไทยและบริษัทข้ามชาติ เพื่อร่วมมือพัฒนาธุรกิจชุมชนมากขึ้นทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต การบริหารจัดการ และช่องทางการตลาด ตลอดจนการจัดงานแฟร์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงพื้นที่ อาทิ อุตสาหกรรมแฟร์
  1. ปรับเพิ่มการเข้าถึงโอกาส (RESHAPE THE ACCESSIBILITY) ผ่านการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน (FINANCIAL INCLUSION) โดยพัฒนากลไกการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่ม SMEs ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ SME ผ่านทางโครงการ "ติดปีกเอสเอ็มอี หลักทรัพย์ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้" โดยได้ร่วมมือกับ 5 สถาบันการเงิน ได้แก่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank)

    ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ ดีพร้อม และ บสย. ร่วมกันพิจารณาการค้ำประกันและสามารถแจ้งผลพิจารณาเบื้องต้นภายใน 7 วันทำการ โดยคาดว่าจะมีเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้วงเงินไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และสามารถต่อยอดการเริ่มต้นธุรกิจและสร้างโอกาสเติบโตคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 8,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้กับผู้ประกอบการไทยผ่านสินเชื่อธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม (DIPROM Pay for BCG) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการปรับปรุง/พัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้พลังงาน หรือรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม อันจะส่งผลให้ลดต้นทุนในกระบวนการผลิตได้อย่างยั่งยืน

          ขณะเดียวกัน ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) เพื่อเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยความร่วมมือนี้จะทำให้นักวิจัยและผู้ประกอบการได้ทำงานกันอย่างใกล้ชิด ด้วยการนำผลการวิจัยมาปรับปรุงให้ผลิตเป็นสินค้านวัตกรรมออกสู่ตลาดได้มากขึ้น อีกทั้ง ยังได้ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในการสนับสนุนผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าถึงช่องทางและโอกาสทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งพัสดุ/ผลิตภัณฑ์ การให้บริการคลังสินค้าครบวงจร (Fulfillment) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกนารจัดการสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปลายทาง การจำหน่ายสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ

          การให้บริการขนส่งสินค้าแช่เย็น/แช่แข็ง (Fuze Post) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน และมีบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยตรงตามความต้องการของตลาด การส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงเป็นช่องทางการขนส่งและจัดจำหน่ายทั้งแบบออฟไลน์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ หรือร้านธงฟ้าและออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ Thailand Post Mart ตลอดจนการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไปยังแพลตฟอร์มอเมซอน และอีเบย์อีกด้วย ทั้งนี้ ในปี 2567 ดีพร้อม ได้ตั้งเป้าหมาย ในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมกว่า 18,400 ภายใต้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท นายภาสกร กล่าวทิ้งท้าย

 

 

Page Visitor

013016406
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
10061
14397
116941
318920
505277
13016406
Your IP: 3.128.168.176
2024-12-22 16:41
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.