PLANET ผนึก ซิสโก้ เปิดตัว "ดาต้าเซ็นเตอร์" สำหรับ"สมาร์ทซิตี้" โชว์ไตรมาส 3 กวาดรายได้ 154.81 ล้านโต 39%
กลุ่มบริษัทใหม่ในเครือ จ่อทยอยรับรู้รายได้ตามแผน
PLANET ผนึก"ซิสโก้"เปิดตัว “PLANET Edge Data Center” โมบายล์ดาต้าเซ็นเตอร์ต้นแบบสำหรับ"สมาร์ทซิตี้" เตรียมลุยตลาดเจาะหัวเมืองต่างๆทั่วประเทศ ในปี66 โชว์ผลงานไตรมาส 3/65 กวาดรายได้ 154.81 ล้านโต 39% บิ๊กบอส "ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์" ชี้ บริษัทย่อยในเครือเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจรและนวัตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า PLANET และบริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกันเปิดตัว “PLANET Edge Data Center” โมบายล์ดาต้าเซ็นเตอร์ต้นแบบสำหรับขับเคลื่อนสมาร์ทซิตี้ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลในประเทศไทย (Country Digital Acceleration - CDA) ของซิสโก้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมศักยภาพการเชื่อมต่อ และสร้างประสบการณ์ดิจิทัลแบบเน็กซ์เจนให้กับประชาชนผ่านนวัตกรรมสมาร์ทซิตี้
“เรามุ่งพัฒนาโซลูชั่นเพื่อสร้างเมืองดิจิทัลที่สามารถใช้ศักยภาพของ 5G ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ และชีวิตที่มีคุณภาพ การที่เราเป็นพาร์ทเนอร์กับซิสโก้ทำให้ธุรกิจและการบริการของเราเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ ‘PLANET Edge Data Center’ มีแผนจะนำไปติดตั้งตามหัวเมืองจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศภายในปี 2566 โดยใช้เวลาในการติดตั้งที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงซึ่งเป็นจุดเด่นของโมบายล์ดาต้าเซ็นเตอร์" นายประพัฒน์กล่าว
นายประพัฒน์ กล่าวต่อถึงผลการดำเนินงาน ในไตรมาสที่ 3/65 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการจํานวน 154.81 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 43.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.03% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการดําเนินงาน 111.35 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ มาจากการขายงานโครงการในธุรกิจหลายประเภท อาทิ ระบบการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์และดิจิทัลทีวี และระบบการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์
"ด้วยตัวเลขรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเดิม และการดําเนินงานที่เป็นไปตามแผนของธุรกิจใหม่ในกลุ่มบริษัทฯ จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2565 มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการจำนวน 458.78 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 157.32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 52.19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2564 ซึ่งมีรายได้จากการดําเนินงาน 301.46 ล้านบาท" นายประพัฒน์กล่า
นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการดําเนินงานซึ่งเป็นไปตามแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท อีกทั้งสถานการณ์โควิด 19 ที่เริ่มคลี่คลาย จึงส่งผลให้ยอดขายของบริษัทในปีนี้สูงขึ้นจากช่วยเดียวกันปีก่อน โดยงวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิจำนวน 8.03 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งมีกําไรสุทธิอยู่ที่ 8.14 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากต้นทุนสินค้าและบริการที่สูงขึ้น ขณะที่ในไตรมาสที่ 3/65 ผลการดำเนินการเป็นยอดขาดทุนสุทธิจำนวน 7.30 ล้านบาท เนื่องจากผลขาดทุนของบริษัทในเครือที่จัดตั้งใหม่ ซึ่งรอการรับรู้รายได้ตามแผนต่อไป