PLANET กางกลยุทธ์เคลื่อนธุรกิจปี’66 รุกตลาด EV, ดิจิทัลเทคโนโลยี, และ Cyber Security เต็มรูปแบบ
ตั้งเป้าผลงานเติบโตก้าวกระโดด
PLANET กางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2566 ตอบรับเมกะเทรนด์โลก ชูวิสัยทัศน์ เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจรชั้นนำของไทย เตรียมเดินหน้ารุกตลาดEV ,ดิจิทัลเทคโนโลยี,และ Cyber Security เต็มรูปแบบ ควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม สู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Zero-Carbon) บิ๊กบอส "ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์" ตั้งเป้าผลงานเติบโตก้าวกระโดด
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯวางกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 โดยเน้นให้ความสำคัญต่อการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) เพื่อความยั่งยืนและเติบโตในระยะยาว รวมทั้งเน้นบริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจให้เติบโตควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาโลกร้อน โดยมุ่งการนำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อยกระดับและพัฒนาประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Zero-Carbon) ยกระดับภาคการผลิตไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต (Increasing Productivity) รวมไปถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน (Improving a Quality of Life) ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นผู้นำการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลแบบครบวงจร ชั้นนำของประเทศไทย
ทั้งนี้ มองว่าทิศทางในอนาคตของเมกะเทรนด์โลกนับจากปี 2566 เป็นต้นไปจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อาทิ จะมีความต้องการใช้เทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ ประหยัดงบประมาณ และเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน รวมถึงความต้องการใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น โดยองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงในกลุ่มภาคอุตสาหกรรม ประชาชนผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการเร่งเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็วและเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีแนวโน้มที่จะเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย
นายประพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯถือว่าได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มเมกะเทรนด์โลกดังกล่าวอย่างมาก เนื่องจากในปีที่ผ่านมา เรามีการขยายธุรกิจและการลงทุนเพื่อมุ่งเน้นตลาดสินค้า New S Curve ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยต่างๆ อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับด้านสาธารณูปโภค ธุรกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยี กลุ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ (Cyber Security) ธุรกิจด้านยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ขณะที่กลุ่มธุรกิจระบบสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจรซึ่งเป็นธุรกิจหลักดั้งเดิมลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนยังคงมีโครงการประมูลใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2566 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มเมกะเทรนด์โลกดังกล่าว
สำหรับในปี 2566 บริษัทฯ มีแผนเดินหน้าธุรกิจด้านดิจิทัล ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจ Cyber Security อย่างเต็มตัว โดยในส่วนของธุรกิจด้านดิจิทัล ปีที่ผ่านมา PLANET ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือEEC และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของโลก อาทิ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกลุ่มธุรกิจ พลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำเทคโนโลยีและระบบฮาร์ดแวร์ ไปสนับสนุนการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองต้นแบบ Smart Digital City และตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของ Data Center ในประเทศไทย
"ในปีที่ผ่าน บริษัทฯได้เริ่มนำร่องเดินหน้าธุรกิจด้านดิจิทัลแล้วในพื้นที่ EEC โดยนำนวัตกรรมระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง Internet Switch 400 Gbps มาใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลในพื้นที่โครงการ EEC SILICON TECH PARK ให้เป็นเมืองต้นแบบ Smart Digital City เพื่อรองรับการลงทุนจากภาคเอกชน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณภาพชีวิตที่ดี และจูงใจบริษัทชั้นนำทั่วโลกเข้ามาลงทุนวิจัยพัฒนา (R&D) ต่อยอดธุรกิจในพื้นที่ และมีแผนพัฒนาเมืองอื่นๆในประเทศไทยทั่วประเทศ รวมทั้ง ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ในโครงการสมาร์ทซิตี้ภูเก็ต ด้วยการนำสมาร์ท เซฟตี้ แพลตฟอร์มเข้าไปยกระดับถนนถลาง-ซอยรมณีย์ และบริเวณเทศบาลและแหลมพรหมเทพ ให้ปลอดภัยและน่าอยู่ยิ่งขึ้น และมีแผนต่อยอดให้บริการกับลูกค้าธุรกิจ อาทิ นิคมอุตสาหกรรม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โครงการที่อยู่อาศัย ฯลฯ รวมถึงพัฒนาโซลูชันด้านสมาร์ทซิตี้ใหม่ ๆ และผนึกความร่วมมือทางธุรกิจด้านอื่นต่อไปด้วย" นายประพัฒน์กล่าว
ขณะที่ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) นอกจากเรื่องการพัฒนาสถานีชาร์จรถยนต์EV ด้วยนำการใช้เทคโนโลยี Internet of Thing ( IoT ) มาใช้ ซึ่งดำเนินการไปแล้วในปีที่ผ่านมา ในปี 2566 นี้ บริษัทฯมีแผน เป็นตัวแทนนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับเฉพาะกลุ่มธุรกิจ โดยนำร่องในกลุ่มอุตสาหกรรมการส่งสินค้า (Logistic) ก่อน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ในต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 นี้จะมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม
นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจเทคโนโลยีด้านกลุ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ Cyber Security ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท แพลนเน็ต ไซเบอร์ จำกัด นั้นกำลังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจาก ตลาดป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์กำลังมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก โดยในปี2566 นี้ บริษัทฯจะเร่งขยายฐานลูกค้าไปยังหน่วยงาน ภาคธุรกิจต่างๆ ที่จำเป็นต้องปรับปรุงยกระดับรักษาความปลอดภัย ข้อมูลสำคัญขององค์กร อาทิ ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลของลูกค้า เนื่องจาก หากข้อมูลถูกโจรกรรม นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่องค์กร ซึ่งในส่วนผู้รับผิดชอบยังเสี่ยงอาจต้องโทษทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยบริษัทฯ มีแนวคิดที่จะขยายการให้บริการโดยจะเน้นใช้ระบบ Data Encryption หรือการเข้ารหัสข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูง เข้ามาเสริมความปลอดภัยให้กับลูกค้า อาทิ ในกลุ่มโรงพยาบาล หรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐหรือแม้แต่ธุรกิจขนาดเล็ก