เจ้าสัว ส่ง “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” รุกตลาดสแน็กเต็มรูปแบบ
เจ้าสัวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” บุกตลาดสแน็กอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ภายใน 3-5 ปี พร้อมเผยแผนการดำเนินงานปี 65 เดินหน้าตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ คือ คิดค้นความอร่อยเต็มคุณค่าเพื่อชีวิตดีมีสุข (Creating Food for a Prosperous Life) ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก
คุณณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เตียหงี่เฮียง (เจ้าสัว) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทจะเน้นการลงทุนเพื่อส่งเสริมการเติบโตของสินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยว โดยมีการขยายกำลังการผลิตด้วยการนำเครื่องจักรแบบ Automation มาเสริมกำลังการผลิต อีกทั้ง มีการสนับสนุนเต็มรูปแบบในเรื่องการสื่อสารการตลาด รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น
โดยในปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทเติบโตสินค้าในกลุ่มขนมขบเคี้ยว ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” ในการเข้าสู่ตลาดสแน็ก หรือขนมขบเคี้ยวอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ ตลาด Local Snack หรือสแน็กท้องถิ่นของไทยมีสินค้า “ข้าวตังเจ้าสัว” แบบแผ่นใหญ่ดั้งเดิมครองตลาดอยู่แล้ว บริษัทจึงตั้งเป้าเข้าสู่ตลาดใหม่ที่ใหญ่ขึ้น นั่นก็คือ ตลาดขนมขบเคี้ยวที่มีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อการเติบโต โดยตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งทางการตลาดภายใน ประมาณ 3-5 ปีอยู่ที่ 5%
สำหรับ “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” เป็นไลน์ขนมขบเคี้ยว “ของว่างทานเพลิน” ที่ออกมาเพื่อเจาะตลาดขนมขบเคี้ยว ซึ่งแตกไลน์เพิ่มเติมจาก “เจ้าสัว ข้าวตัง” รุ่นดั้งเดิมที่อยู่ในเซ็กเมนต์ของทานรองท้อง เกิดขึ้นจากที่บริษัทได้ทำการวิจัยความต้องการของผู้บริโภค พบว่าพฤติกรรมการบริโภคขนมขบเคี้ยวของคนไทยเน้นไปที่การทานเล่นแบบเพลินๆ ชิ้นพอดีคำ ทานง่ายแบบมือเดียว ซึ่งเป็นการทานระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูทีวีซีรีส์ ทำงาน และกิจกรรมอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” ให้แตกต่างจากสินค้าอื่นๆ ในตลาดขนมขบเคี้ยวซึ่งเป็นสินค้ากลุ่ม Meat Snack ที่เป็นทางเลือกของขนม Better for you ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อเป็นทางเลือกในตลาดขนมขบเคี้ยวตอบโจทย์ในกลุ่มอาหารทานเพลิน โดยใช้จุดแข็งเรื่อง “คุณภาพ” ที่ทำจากข้าวหอมมะลิแท้และเนื้อสัตว์ อีกทั้ง ยังได้ “ความอร่อย” ด้วยน้ำปรุงสูตรพิเศษ พร้อมกับปรับขนาดให้เหมาะกับการทานเพลินสามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย ด้วยความแตกต่างนี้บริษัทมั่นใจว่า “เจ้าสัว ข้าวตังมินิ” จะมาช่วยกระตุ้นตลาดขนมขบเคี้ยวให้เติบโตมากขึ้น
คุณณภัทร กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ “เจ้าสัว” ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าตามวิสัยทัศน์และพันธกิจ คือ คิดค้นความอร่อยเต็มคุณค่าเพื่อชีวิตดีมีสุข (Creating Food for a Prosperous Life) บน 4 กลยุทธ์หลัก ดังต่อไปนี้
1. Being part of consumers’ eating occasion - การเป็นส่วนหนึ่งในพฤติกรรมการกินของผู้บริโภคในโอกาสต่างๆ สินค้าของเจ้าสัวที่มีหลายเซ็กเมนต์ ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้สูงและสอดรับการบริโภคในโอกาสต่างๆ
2. Brand extension into new markets - การขยายแบรนด์สู่ตลาดใหม่ ด้วยเทรนด์การบริโภคขนบขบเคี้ยวที่ใส่ใจกับสุขภาพมากขึ้น เลือกขนมที่ทำจากวัตถุดิบที่ให้คุณค่าทางโภชนาการ ทำให้เจ้าสัวคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ภายใต้ 2 แนวคิดหลัก คือ การนำเสนอสินค้าใหม่ที่แตกต่าง (Differentiation) และเน้นคุณประโยชน์ทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ (Better for you Snack) โดยมุ่งนำเสนอสินค้าที่เน้นคุณค่าจากโปรตีนและข้าวหอมมะลิแท้
3. Accelerating exposure in the global market - เร่งการขยายตัวสู่ตลาดโลก ได้แก่ CLMV, ฮ่องกง, จีน, ยุโรป, ออสเตรเลีย และอเมริกา โดยมี “ข้าวตัง” จะเป็นสินค้าชูโรงเพื่อบุกตลาด และสินค้ากลุ่มธัญพืช ภายใต้คอนเซ็ปต์ Better for You Snack
4. The creation of a more agile organization with accelerated innovation capabilities - การสร้างองค์กรที่คล่องตัวยิ่งขึ้นด้วยความสามารถด้านนวัตกรรมที่รวดเร็ว บริษัทเน้นการทำงานแบบ Agile Working ที่เน้นความคล่องตัวสูง ช่วยให้ขับเคลื่อนองค์กรเร็วขึ้น เพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดยสร้างค่านิยมให้พนักงานในทีมต่างๆ ได้เสนอความคิดเห็นและทดลองทำ ตลอดจนทีมบริหารยังเปิดรับฟังไอเดียคนรุ่นใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อนำมาต่อยอดความคิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่
คุณณภัทร กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาในการทรานส์ฟอร์มแบรนด์ในองค์รวม จากแบรนด์ของฝากท้องถิ่นสู่ตลาดขนมทานเล่นและอาหารที่สามารถรับประทานได้ทุกวัน (Everyday consumption) ไม่ว่าจะเป็น การปรับแพคเกจจิ้งให้ทันสมัย พกพาง่าย การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปทั่วประเทศ ตลอดจนการสื่อสารทางตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมทุกสื่อ ทำให้ผลิตภัณฑ์ “เจ้าสัว” ได้รับการตอบรับอย่างดี เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลให้ “แบรนด์เจ้าสัว” เติบโตกว่า 17% ในปีที่ผ่านมา สำหรับเป้าหมายการเติบโตด้วยแผนการตลาดแบบจัดเต็ม รวมถึง มีการออกสินค้าใหม่ๆ ปีนี้ บริษัทมองการเติบโตที่ 20%