“วิภาราม” เดินหน้าพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลเต็มกำลัง
โรงพยาบาลวิภาราม มุ่งขับเคลื่อนศักยภาพโรงพยาบาลต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งด้านคุณภาพและความเชี่ยวชาญการให้บริการทางการแพทย์ ปี 2565 ลุยแผนขยายปรับปรุงโรงพยาบาลต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความสะดวก รองรับการเติบโตของประชากร ตอกย้ำการเป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการรักษาพยาบาล ตามมาตรฐานสากลชั้นนำของไทย
นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาราม กล่าวว่า โรงพยาบาลวิภาราม เปิดให้บริการรักษาพยาบาลมาตั้งแต่ปี 2541 โดยเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาด 150 เตียง บริหารงานโดยทีมผู้บริหารโรงพยาบาลรามคำแหง ร่วมกับโรงพยาบาลวิภาวดี และโรงพยาบาลในเครือพันธมิตร ทำให้มีความเจริญก้าวหน้าและก้าวสู่การขยายเครือข่ายโรงพยาบาลออกไปในหลายพื้นที่ ที่ผ่านมาโรงพยาบาลวิภาราม ได้พัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ มาโดยตลอด ทั้งด้านบริการ และด้านคุณภาพในการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้มารับบริการเป็นอย่างดี
“โรงพยาบาลวิภาราม เรามีการให้บริการต่างๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์แม่และเด็ก ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ศัลยกรรม ศูนย์อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ศูนย์ฉุกเฉินโรคหัวใจ ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ฯลฯ ซึ่งที่โดดเด่นและประสบผลสำเร็จของเรา คือการสวนหัวใจ ที่ทำมากว่า 20,000 ราย และผ่าตัดหัวใจไปกว่า 1,000 ราย รวมไปถึงเรื่องสมอง Stroke ที่หากเป็นเคสฉุกเฉิน โรงพยาบาลเราสามารถรักษาได้รวดเร็วภายใน 60-90 นาที นี่จึงเป็นจุดเด่นของเรา ซึ่งเราควบคุมคุณภาพในเรื่องการบริการรักษาอยู่ตลอด ขณะเดียวกันในเรื่องบุคลากร เราก็มีการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดอบรมในด้านต่างๆ ทั้งภายในภายนอก เพื่อให้บุคลากรของเรามีความรู้ความสามารถ และนำกลับมาพัฒนาการดำเนินงานได้อย่างมีคุณภาพ” นพ.ไพบูลย์กล่าว
สำหรับการดำเนินงานต่อไปในปี 2565 ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภารามกล่าวว่า โรงพยาบาลวิภารามจะมุ่งยกระดับ พัฒนาทั้งการบริการ การรักษาพยาบาล บุคลากร รวมถึงการขยาย ปรับปรุงสถานพยาบาล สร้างความสะดวกให้กับผู้ป่วยที่มารับบริการ โดยโรงพยาบาลได้ใช้งบลงทุนถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างอาคารจอดรถเพิ่ม และขยายอาคารแผนกแม่และเด็ก ขนาด 59 เตียง ให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ในอนาคต เรายังได้ตั้งงบลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อเดินหน้าขยายโรงพยาบาลไปที่ย่านอ่อนนุชเพิ่มด้วย เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของประชากรในพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงครึ่งปีหลังนี้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในส่วนโรค Covid-19 ที่กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในปีนี้ ทุกคนคงต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ ซึ่งเรามองว่าผู้ป่วย 80% ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย สามารถดูแลรักษาตนเองที่บ้านได้ ส่วนอีก 20% ที่อาจมีอาการรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว และกลุ่มตั้งครรภ์ คงต้องเน้นดูแลเป็นพิเศษ และโรงพยาบาลวิภารามของเราจะให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เป็นหลัก พร้อมกับการปรับเปลี่ยนมาตรการการรักษา หันมาดูแลคนไข้ปกติ Non Covid ให้มากขึ้นในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ เป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษของโรงพยาบาลวิภาราม ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการทางการแพทย์ เราเน้นในเรื่องของคุณภาพ และได้มีการปรับพัฒนาคุณภาพในองค์กรมาตลอด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO และ HA อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของโรงพยาบาลวิภารามในอนาคต จะคงยึดหลักพันธกิจของเราคือ ให้บริการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพ ด้วยประกันคุณภาพการบริการ (Quality Assurance) ตามมาตรฐานสากล รวมถึงจะให้บริการด้วยจิตสำนึกแห่งวิชาชีพ และสร้างความพึงพอใจสูงสุดของผู้รับบริการทุกคนต่อไป