May 02, 2024

บางกอกเชน พร้อมรับดีมานด์จากบริการด้าน Non-COVID

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

บางกอกเชน ตั้งเป้าโต 104% พร้อมรับดีมานด์จากบริการด้าน Non-COVID

บมจ.บางกอกเชน ฮอสปิทอล (BCH) ลุยให้บริการคนไข้ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 เต็มรูปแบบ มุ่งรีโนเวท ขยายสาขา และเปิดศูนย์บริการต่างๆ รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมวางเป้าหมายการเติบโตที่ 104% จากฐานคนไข้เงินสด มั่นใจ! ด้วยจุดแข็งในการให้บริการที่ครอบคลุม รวมถึงการปรับตัวที่รวดเร็ว จะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้องค์กร

          คุณกันตพร หาญพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท บางกอกเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2563-2564 บางกอกเชนได้รับผลกระทบในด้านบวกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และด้านลบจากกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่ลดลง แต่อย่างไรก็ตาม บางกอกเชนสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการให้บริการคนไข้ จากรูปแบบการให้บริการใหม่อย่าง Telemedicine มาปรับใช้ ซึ่งเป็นการให้บริการด้านสาธารณสุขกับคนไข้ โดยบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านทางเทคโนโลยีและการสื่อสารแบบ Video Conference ทำให้เราสามารถให้บริการคนไข้ทั่วไปได้สะดวกขึ้น

สำหรับปี 2565 การดำเนินงานในครึ่งปีที่ผ่านมาจะคล้ายกับปี 2564 ด้วยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังค่อนข้างสูง ซึ่งในแง่ของการให้บริการด้านโควิด-19 เราถือว่าทำได้อย่างดีจากประสบการณ์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ สิ่งที่เราจะให้ความสำคัญเพื่อรองรับดีมานด์ที่เกิดขึ้นปลายปี จะเป็นเรื่องการให้บริการคนไข้กลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 (Non-COVID) โดยเรามีแผนดำเนินการในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวทโรงพยาบาลทุกแห่งในเครือให้มีความโมเดิร์น ทันสมัยขึ้น รวมถึงการเปิดศูนย์บริการรองรับกลุ่มคนไข้ใหม่ อาทิ ศูนย์ Long Covid เนื่องจากคนไข้ที่เคยเป็นโควิด-19 มีสิทธิ์เป็น Long Covid ซึ่งเป็นอาการต่อเนื่องแม้โควิด-19 จะหายไปแล้ว

อีกทั้ง ยังมีเรื่องของ Wellness หรือที่เรียกทั่วไปว่า Anti-Aging หรือเวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) อันเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ ชะลอวัย ที่ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะหลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้ผู้คนหันมาสนใจเรื่องนี้มากขึ้น ซึ่ง Wellness จะเป็นอีกหนึ่งด้านที่เราทำ เพื่อรองรับดีมานด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“นอกจากนี้ ในเรื่องของการขยายสาขา ตามแผนเราจะมีการขยายทุกๆ 3-4 ปี สาขาล่าสุดที่เราเปิดคือสาขาเวียงจันทร์ สปป.ลาว ในอนาคตเราก็ตั้งเป้าจะเปิดอีก 4 แห่ง ในระยะ 3 ปีจากปีนี้ คือปี 2566-2568 โดยจะเปิดในประเทศ 3 แห่ง และที่ สปป.ลาวอีก 1 แห่ง เนื่องจากกระแสตอบรับที่เวียงจันทร์ค่อนข้างดี และในอนาคตก็คิดว่าที่ต่อไปอาจจะเปิดที่กัมพูชา หรือเวียดนามเพิ่ม อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราจะเน้นในครึ่งปีหลังนี้คือบริการที่ไม่เกี่ยวกับโควิด เพราะยังไงโควิดก็ต้องมีวันสิ้นสุด รวมถึงเราจะโฟกัสอีกตลาดคือตลาดต่างประเทศที่กลับมา หลังจากที่หายไปช่วงโควิด ด้วยกฎระเบียบในการเข้าประเทศที่ค่อนข้างยาก ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาแล้ว เราก็จะเน้นตรงนี้” คุณกันตพร กล่าว

ทั้งนี้ ความท้าทายและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของบางกอกเชน ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเน้นการให้บริการเรื่องของโควิด-19 อย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ จึงถือเป็นความเคยชินต่อการบริการในรูปแบบนี้ไปแล้ว ฉะนั้น สิ่งที่เป็นความท้าทายของเราในปีนี้ คงเป็นเรื่องของการดึงคนไข้กลุ่มที่ไม่เกี่ยวข้องกับโควิดกลับมา และทำให้กลุ่มนี้เติบโตขึ้นให้ได้ 104% จากฐานคนไข้เงินสด ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ โดยตัวเลขที่นำมาวัดคือตัวเลขจากปี 2562 ที่เรามีรายได้จากคนไข้เงินสด ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19 เต็มปี ก็นับเป็นความท้าทายในการดำเนินงานของเรา

คุณกันตพร กล่าวถึงจุดแข็งของบางกอกเชนด้วยว่า โรงพยาบาลในเครือบางกอกเชน เราถือเป็นผู้ให้บริการกลุ่มคนไข้โควิด-19 มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งการที่เราทำได้แบบนี้ เกิดจากการปรับตัวที่รวดเร็วในการดำเนินงาน หลังจากที่เกิดวิกฤติโควิด-19 และภาครัฐได้ประกาศวิธีการรับมือ และแนวทางในการปฏิบัติ เราก็สามารถปรับตัวและเตรียมการได้ทันที เพื่อให้รองรับคนไข้ได้มากขึ้น ซึ่งจุดประสงค์ที่ทุกภาคส่วนต้องการคือทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเร็วที่สุด เราจึงพยายามรับนโยบายทุกอย่างมาใช้ และปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้บางกอกเชนสามารถเดินหน้าธุรกิจ และให้บริการคนไข้ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน หากพูดถึงในภาพกว้างของการให้บริการ กลุ่มโรงพยาบาลของเรามีรูปแบบการดำเนินงานที่แตกต่างจากที่อื่น ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้มีเพียงตลาดต่างประเทศ คนไข้เงินสด หรือคนไข้ใช้ประกันเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มคนไข้ประกันสังคม และสิทธิ์พื้นฐานด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้บางกอกเชนถือเป็นบริษัทเดียวที่มีทุกเซ็กเม้นท์ จากการจับกลุ่มตลาดและสร้างแบรนด์ขึ้น โดยแบ่งตามพื้นที่ในการรองรับคนไข้ได้อย่างเหมาะสมทุกกลุ่ม ฉะนั้นนี่จึงเป็นอีกจุดแข็งที่สร้างความต่างให้เรา 

          “ทั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทตั้งแต่แรกเริ่มคือ การเป็นผู้นำทางด้านการให้บริการสุขภาพ ผมคิดในตอนนี้เราสามารถเป็นผู้ให้บริการของประกันสังคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว และวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งต่อไป คือการเป็นผู้ให้บริการด้านสุขภาพอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือพยายามเปิดสาขาในประเทศที่อยู่ในอาเซียน อย่าง สปป.ลาว ที่เปิดเป็นแห่งแรก ก็ค่อนข้างจะ Success และหากไม่มีอะไรผิดพลาดภายใน 5 ปี คาดว่าเราจะมีโรงพยาบาลในต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 3 แห่ง และไม่ต่ำกว่า 3 ประเทศอย่างแน่นอน” คุณกันตพร กล่าวทิ้งท้าย

www.bangkokchainhospital.com  

 

 

Page Visitor

010659641
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
1918
4439
22339
6357
147900
10659641
Your IP: 3.142.96.146
2024-05-02 07:51
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.