May 02, 2024

บีโอไอ เปิดตัววีซ่าใหม่ “LTR Visa”

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

บีโอไอ เปิดตัววีซ่าใหม่ “LTR Visa” ตั้งเป้าดึง 4 กลุ่มต่างชาติ ขับเคลื่อนศักยภาพเศรษฐกิจไทย

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดตัววีซ่าประเภทใหม่ “LTR Visa” (Long-Term Resident Visa) สำหรับชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มหลัก พร้อมสิทธิพิเศษหลากหลายที่เอื้อต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ อันจะเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

          คุณนฤชา ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ กล่าวว่า บีโอไอ ได้เปิดตัววีซ่าประเภทใหม่ “Long-Term Resident Visa : LTR Visa” ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายให้สิทธิพิเศษแก่นักลงทุนต่างชาติ หรือชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย การลงทุน การเข้ามาตั้งฐานธุรกิจในไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพของเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจใหม่ อันใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว อาทิ อุตสาหกรรมด้านยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัล ท่องเที่ยว การบิน เชื้อเพลง เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ เป็นต้น

เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ที่ต้องเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ฉะนั้น LTR Visa ถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเป้าหมายของ LTR Visa คือการดึงดูดผู้พำนักชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 กลุ่มหลัก ทั้งกลุ่มผู้มีทักษะและความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้ที่มีความมั่งคั่ง รวมไปถึงกลุ่มคนที่ต้องการทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก และไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญของนักเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงผู้ที่เดินทางเพื่อการทำงานจากทั่วโลก

          สำหรับชาวต่างชาติ 4 กลุ่มดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ผู้มีความมั่งคั่งสูง ต้องมีทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี และลงทุนในไทยไม่น้อยกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ 2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ ในพันธบัตรรัฐบาล หรืออสังหาริมทรัพย์

3. ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A 4. ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐต่อปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานที่เข้ามาทำในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ถือ LTR Visa จะได้สิทธิพำนักในประเทศไทย 10 ปี สามารถใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ในการเข้าออกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ รายงานตัวทุก 1 ปี (จากเดิมทุก 90 วัน) และไม่ต้องยื่นขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-entry permit) อนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือร้อยละ 17 สำหรับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และมีผู้ติดตามได้ 4 คน

วีซ่าประเภทใหม่นี้คาดว่าจะดึงดูดผู้พำนักชาวต่างชาติกลุ่มใหม่ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี รวมถึงผู้มีทักษะและความเชี่ยวชาญ เพื่อมากระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน และช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยบีโอไอรับหน้าที่กลั่นกรองคุณสมบัติของผู้ขอวีซ่าประเภทใหม่นี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอทางระบบออนไลน์ได้ที่ https://ltr.boi.go.th

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ก่อตั้งขึ้นในปี 2509 ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม โดยมีภารกิจหลักคือการส่งเสริมการลงทุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี และสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี จนกระทั่งถึงปัจจุบันได้มีการขยายขอบเขตหน้าที่ให้ครอบคลุมการส่งเสริมการลงทุนของคนไทยในต่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม บีโอไอยังคงบทบาทในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณค่า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ก้าวพ้นการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง ให้เป็นประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและสมดุล

 

 

 

 

Page Visitor

010661139
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
3416
4439
23837
7855
147900
10661139
Your IP: 18.191.223.123
2024-05-02 13:14
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.