ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่เศรษฐกิจไทยยังคงมีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น โดยต้องเผชิญหน้ากับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ซึ่งอาจจะฉุดให้เศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวต่ำกว่าการคาดการณ์ ไม่ว่าจะเป็น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายของประเทศสหรัฐอเมริกา หนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และแนวโน้มความผันผวนในภาคการเกษตร เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวได้ที่ 2.4-2.9% ขณะที่ การส่งออกจะขยายตัว 1.5-2.5% ซึ่งต่ำกว่าปี 2567 ส่วนอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำที่ 0.8-1.2% โดยเศรษฐกิจไทยยังอาศัยภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลัก จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเป็น 39.0 ล้านคน ประกอบกับมาตรการของภาครัฐที่จะทยอยในช่วงครึ่งแรกของปี ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส2 และเฟส3 รวมถึงมาตรการ Easy E-Receipt
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ยังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ จากปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 104% ของจีดีพีเมื่อรวมหนี้นอกระบบ เศรษฐกิจนอกระบบที่มีสัดส่วนถึงเกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพี และธุรกิจ SME ขาดความสามารถในการปรับตัวและการแข่งขันที่จะรับมือกับการตีตลาดของสินค้านำเข้าทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทย อาทิ ผันเศรษฐกิจเข้าสู่ในระบบ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและก้าวทันกระแสโลก ลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ และเติมเครื่องมือให้ SME ปรับตัวได้ เป็นต้น
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาประมาณการ GDP ปี 2568 เช่นกัน โดยจะอยู่ที่ 2.9% จากแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคการท่องเที่ยวและบริการ การส่งออกสินค้า อุปสงค์ภายในประเทศและต่างประเทศ ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในปี 2568 จะยังมีความผันผวน จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน และต้นทุนการลงทุนที่ผันผวน
ขณะที่ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2568 กกร. ประเมินว่ามีแนวโน้มเติบโตระดับ 3% ท่ามกลางความไม่แน่นอนเชิงนโยบาย โดยจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปี 2567 ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากพัฒนาการด้านเทคโนโลยี และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน มาตรการกีดกันทางการค้าโดยเฉพาะนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาต่อจีนเป็น 60% และต่อประเทศอื่นประมาณ 10-20% ตลอดจนมาตรการตอบโต้ของบรรดาประเทศคู่ค้า เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไปที่คาดว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นของมาตรการ
ปิดท้ายฉบบนี้กับวิสัยทัศน์ คุณธัญทิพย์ ชัยศรีฐานนท์กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไรซ์ ซัพพลาย เผยแผนการดำเนินงานปี 68 ชู 2 เป้าหมายหลัก เติมศูนย์บริการเพิ่ม 5 สาขา หนุนต่อยอดธุรกิจ-รองรับทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีศักยภาพ พร้อมเข้าสู่วงการขายสินค้าเต็มรูปแบบ ตั้งเป้ารายได้พุ่งทะยานสู่ 100 ล้านบาท มั่นใจตัวเลขตามคาด รับการเติบโตสวนกระแส ตอกย้ำจุดเด่นที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน ด้วยงานซ่อมที่ได้มาตรฐาน-การให้บริการ 24 ชม.-ทีมช่างที่มีประสิทธิภาพ
