STA ขยายการลงทุนยางแท่งที่โรงงานบึงกาฬและตรังแล้วเสร็จ ดันกำลังการผลิตรวมยางทุกประเภทเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.1 ล้านตันต่อปี
พร้อมอยู่ระหว่างขยายการผลิตน้ำยางข้นอีก 2 แห่ง คาดทยอยเสร็จปลายปีนี้
บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (“STA” หรือ “บริษัทฯ”) เดินหน้าขยายการลงทุนแล้วเสร็จอีก 2 แห่ง เพิ่มกำลังการผลิตยางแท่งที่โรงงานบึงกาฬอีก 87,600 ตันต่อปีและโรงงานตรังอีก 70,080 ตันต่อปี ดันกำลังการผลิตยางทุกประเภทรวมกันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.1 ล้านตันต่อปี ชูเทคโนโลยีและเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ ช่วยลดการเพิ่มแรงงานใหม่ ส่วนความคืบหน้าการขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นอีก 2 แห่ง ที่โรงงานนราธิวาส คาดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ และที่โรงงานสุราษฎร์ธานีคาดว่าแล้วเสร็จเดือนธันวาคมนี้ หนุนเป้าหมายเติบโตอย่างต่อเนื่องและเพิ่มส่วนแบ่งยางในตลาดโลกจาก 10% เป็น 12%
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้สินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและสร้างการเติบโตแก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติแล้วเสร็จเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตยางแท่งในโรงงานจังหวัดบึงกาฬอีก 87,600 ตันต่อปีแล้วเสร็จปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา และการขยายกำลังการผลิตยางแท่งภายในโรงงานที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง อีก 70,080 ตันต่อปีที่เพิ่งแล้วเสร็จ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม ณ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.1 ล้านตันต่อปี ตอกย้ำผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก
การขยายกำลังการผลิตยางแท่งและน้ำยางข้นทั้ง 2 แห่ง ได้ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยและเทคโนโลยีการผลิตใหม่แบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดการสูญเสียในระหว่างกระบวนการผลิต โดยไม่ต้องเพิ่มแรงงานใหม่เป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่ออัตราการผลิตยางเฉลี่ยต่อคนต่อปีที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มความสามารถการผลิตยางเฉลี่ยเป็น 35 ตันต่อคนต่อปี ภายในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นอีกกว่า
1 เท่าตัว จากปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 16 ตันต่อคนต่อปี
ทั้งนี้ แม้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความกังวลต่อภาวะชะลอตัว เนื่องจากผลกระทบด้านราคาพลังงานและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและยังคงได้รับคำสั่งซื้อยางจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้าขยายกำลังการผลิตตามแผนงาน โดยช่วงที่เหลือของปีนี้จะขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นแล้วเสร็จอีก 2 แห่ง ได้แก่ 1) การขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นภายในโรงงานจังหวัดนราธิวาส อีก 18,396 ตันต่อปี ที่จะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม และ 2) การขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้นภายในโรงงานสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกถึง 113,004 ตันต่อปี ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม (ยางทุกประเภท) เพิ่มขึ้นเป็น 3.31 ล้านตันต่อปีภายในสิ้นปีนี้ตามที่วางแผนไว้
“บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งจึงสามารถลงทุนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยการลงทุนที่ผ่านมาใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน วงเงินจากการเสนอขายหุ้นกู้และเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมขยายตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศเพื่อสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น และเพิ่มส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางในตลาดโลกเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 10%” นายวีรสิทธิ์ กล่าว