กรุงศรี ขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri
ผสานความแข็งแกร่งและร่วมมือในเครือกรุงศรี MUFG และพันธมิตร สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอาเซียน
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ขับเคลื่อนกลยุทธ์ธุรกิจอาเซียนภายใต้แนวคิด GO ASEAN with krungsri มุ่งสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ผสานความร่วมมือระหว่างเครือข่ายทั้งในประเทศและอาเซียน เพื่อส่งต่อความเชี่ยวชาญและนำเสนอนวัตกรรมต่างๆ ด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภครายย่อย รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าขยายตลาดในอาเซียน
นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอาเซียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีได้กำหนดเป้าหมายตามแผนธุรกิจระยะกลางในการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ธุรกิจอาเซียนจึงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญของกรุงศรี ปัจจุบันกรุงศรีมีบริษัทในเครือในต่างประเทศทั้งสิ้น 6 บริษัท เป็นธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคจำนวน 5 บริษัท และธุรกิจธนาคารพาณิชย์จำนวน
1 แห่ง กระจายอยู่ 5 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีฐานลูกค้าอาเซียนราว 19 ล้านราย ซึ่งเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญของกรุงศรีในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและศักยภาพของบริษัทลูกในต่างประเทศจะสามารถผสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับกรุงศรีได้เพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต”
นางสาวพัทธ์หทัย ได้เผยถึงความคืบหน้าที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ แผนในการเข้าซื้อกิจการ SHB Finance ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศเวียดนามนั้นราบรื่นและรวดเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กรุงศรีได้ยื่นเข้าซื้อและรับโอน 50% ที่คงเหลือจากการซื้อและรับโอนส่วนของทุนครั้งแรก โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่ากรุงศรีจะเข้าถือหุ้น 100% ของ SHB Finance เสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะยื่นเข้าซื้อ 50% ที่คงเหลือในปี 2569 (หรือ 3 ปีหลังจากการซื้อและโอนส่วนของทุนครั้งแรก) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอาเซียนและความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดเวียดนาม
นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอาเซียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ที่ผ่านมา กรุงศรีได้ขับเคลื่อนธุรกิจอาเซียนและสร้างการเติบโตโดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่มี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ด้วยการสร้างระบบนิเวศกรุงศรี (Krungsri Ecosystem) และความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมากรุงศรีได้เดินหน้าตามแนวทาง ดังต่อไปนี้
- กรุงศรีได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความแข็งแกร่งของกรุงศรี และ MUFG ทำให้บริษัทในเครือในต่างประเทศสามารถชิงความได้เปรียบทางการแข่งขัน อาทิเช่น การได้รับอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีของ กรุงศรี และ MUFG จากบริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำส่งผลให้บริษัทลูกในต่างประเทศมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
- ในฐานะผู้นำในตลาดสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศไทย กรุงศรีมุ่งส่งต่อความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ทั้งจากกรุงศรี ออโต้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้กับบริษัทในเครือในต่างประเทศ เพื่อนำจุดแข็งและความสำเร็จที่ได้ไปเป็นแนวทางเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในประเทศต่างๆ ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ
- กรุงศรียังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน โดยที่ผ่านมา กรุงศรีได้พัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย ภายใต้โครงการ ASEAN Privilege โดยจับมือกับพันธมิตรอย่าง คิง พาวเวอร์ และ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อให้สิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และการชอปปิงแก่ลูกค้านักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย และเร็วๆ นี้ กรุงศรีเตรียมประกาศความร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำในไทย เพื่อขยายบริการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ดึงดูดและเป็นจุดแข็งของประเทศ ให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าในอาเซียนได้มากยิ่งขึ้น
“จากแนวทางการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมในปี 2567 กรุงศรีประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อในภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งเน้นการเติบโตในกลุ่มลูกค้า SME และกลุ่มลูกค้ารายย่อย นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินทรัพย์ และเสริมสร้างรายได้จากกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง ปัจจุบันธุรกิจอาเซียนมีสัดส่วนสินเชื่อคิดเป็น 5% ของสินเชื่อรวม และสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 20% ของรายได้รวม ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 23.2%” นางสาวพัทธ์หทัย กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานของธุรกิจอาเซียน ในปี 2568 กรุงศรีจะมุ่งให้ความสำคัญใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
- ปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง โดยในแต่ละบริษัทจะมีการกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจ อาทิ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของสาขา และเร่งขยายฐานผู้ใช้งานโมบายแอปพลิเคชันของ Hattha Bank
- เพิ่มความแข็งแกร่งในการสร้างรายได้ อาทิ นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ Home Credit Philippines และ Home Credit Indonesia สามารถครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจ รวมทั้งพัฒนาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ เช่น Home Credit Philippines และ SHB Finance ที่มีแผนการขยายและเข้าสู่ตลาดบัตรเครดิต การขายประกันในรูปแบบของผลิตภัณฑ์การเงินผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) ของ Hattha Bank
- เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล อาทิ การนำเทคโนโลยีการสร้างหุ่นยนต์มาเพื่อทำงานแบบอัตโนมัติบนระบบคอมพิวเตอร์ (Robotic Process Automation) เข้ามาช่วยในงานด้านการปฏิบัติงาน เพื่อทำให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุน รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือที่มีอยู่ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและมากขึ้น สามารถช่วยขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล
“กรุงศรียังคงยืนยันความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอาเซียนต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าท้องถิ่นในแต่ละประเทศได้มีการเข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลายสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันจะช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนได้มากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิด GO ASEAN with krungsri” นางสาวพัทธ์หทัย กล่าวทิ้งท้าย