“เนเจอร์” เปิดตัวจุกนมนวัตกรรม “NATUR INFINIT” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “One Size Nipple จุกนมไซซ์เดียว สำหรับลูกน้อยทุกช่วงวัย”
ชูนวัตกรรมเด่นที่ไม่เหมือนใครอย่าง ODFR™ system เพื่อให้ลูกน้อยสามารถปรับความต้องการน้ำนมได้ด้วยตัวเอง
เนเจอร์ คอร์ปอเรชั่น เดินหน้ารุกตลาดแม่และเด็ก เปิดตัวจุกนมนวัตกรรม “NATUR INFINIT” กับ คอนเซ็ปต์ One Size Nipple “จุกนมไซซ์เดียว สำหรับลูกน้อยทุกช่วงวัย” ชูนวัตกรรมจุกนมเจเนอเรชั่นใหม่ด้วยนวัตกรรม On-Demand Flow Rate (ODFR)™ system เพื่อให้ลูกน้อยสามารถปรับความต้องการน้ำนม และควบคุมอัตราการไหลของน้ำนมได้ด้วยตัวเอง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ชิงส่วนแบ่งตลาด 800 ล้านบาท
นายทวี เอกสุวรรณเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนเจอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กภายใต้แบรนด์ NATUR, Angel Stony และ Toddy เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์ในตลาดแม่และเด็ก ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี เนเจอร์มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกใช้สินค้าเด็กที่ดี มีคุณภาพ และมีนวัตกรรมที่ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างคุณแม่และลูกน้อย ล่าสุด เปิดตัวจุกนมนวัตกรรม “NATUR INFINIT” ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ One Size Nipple “จุกนมไซซ์เดียว สำหรับลูกน้อยทุกช่วงวัย”
โดยใช้หลักธรรมชาติและความมหัศจรรย์ของเต้านมแม่ ที่ลูกน้อยสามารถดูดน้ำนมได้ทุกช่วงวัยโดยไม่ต้องเปลี่ยนไซซ์จุกนม จึงได้ออกแบบและพัฒนาผิวสัมผัสของจุกนมให้เนียนนุ่ม เพื่อให้การป้อนนมมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติของการดูดนมจากอกแม่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา อีกทั้งนวัตกรรม On-Demand Flow Rate (ODFR)™ system ที่ลูกน้อยสามารถปรับความต้องการน้ำนมได้ด้วยตัวเอง น้ำนมจะไหลเป็นหลายสาย และหากลูกน้อยไม่เริ่มดูด น้ำนมจะไม่ไหล (Anti-drip) ซึ่งช่วยลดโอกาสสำลักน้ำนมและลดอาการโคลิก (Anti-colic) ด้วยนวัตกรรม ODFR™ system จะช่วยให้จุกนมไซซ์เดียวนี้ สามารถป้อนน้ำนมลูกน้อยได้ทุกช่วงวัยเสมือนการดูดนมจากอกแม่ได้อย่างยอดเยี่ยม
“จุดเด่นของจุกนม NATUR INFINIT เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ปัญหาที่ไม่เคยถูกพูดถึงมาก่อน คือ เรื่องของไซซ์จุกนม ซึ่งสินค้าตัวนี้จะช่วยลดปัญหาคุณแม่มือใหม่ที่ยังสับสนในการเลือกไซซ์จุกนมให้เหมาะสมกับลูกน้อย และช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนไซซ์จุกนมให้ลูกน้อยบ่อย ๆ หรือต้องคอยสังเกตว่าจุกนมที่ซื้อมาให้ลูกนั้นจะทำให้ลูกดูดยากจนเหนื่อยเกินไปหรือไม่ รวมถึงช่วยลดปัญหาขนาดจุกนมที่ซื้อมาแล้วไม่ตรงกับความต้องการของลูกน้อยอีกด้วย”
ปัจจุบันแนวโน้มการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในกลุ่มคุณแม่รุ่นใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุผลด้านประโยชน์ต่อสุขภาพและการพัฒนาภูมิคุ้มกันของลูกน้อย สอดคล้องกับรายงานจาก UNICEF ระบุว่า ปัจจุบันอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น และประมาณ 48% ของทารกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน รับน้ำนมแม่อย่างเดียวเพิ่มขึ้น 10% นอกจากนี้ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลายประเทศมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สูงถึง 50% ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและนโยบายในที่ทำงาน โดยประเทศไทยอยู่ที่ 29% แต่ยังไม่ถึงตามเป้าหมายของ WHO ที่ตั้งไว้ที่ 50% ดังนั้นจึงส่งผลให้ตลาดมีความต้องการจุกนมเสมือนเต้านมแม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกน้อยสามารถดื่มนมจากเต้าแม่และสลับใช้จุกนมได้โดยไม่สับสน
“กลยุทธ์ด้านการตลาดและการสื่อสาร เนเจอร์มีความร่วมมือกับพันธมิตรในแคมเปญต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “จุกนมนวัตกรรม “NATUR INFINIT” ครั้งนี้ที่งาน Thailand Baby & Kids Best Buy เพื่อสร้างการการรับรู้แบรนด์และให้กับผู้บริโภคได้สัมผัสและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมยังให้การส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อสุขภาพที่ดีของแม่และลูกน้อย”
สถานการณ์การแข่งขันของตลาดผลิตภัณฑ์แม่และเด็ก มีการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมีทั้งแบรนด์ใหม่จากในและต่างประเทศ แต่เนเจอร์ เน้นย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และต้องการสร้างภาพจำในใจแก่กลุ่มเป้าหมายให้เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ขวดนมและจุกนมที่ 1 ในใจคุณแม่ในยุคนี้ โดยในปีนี้มีการเปิดตัว “จุกนมนวัตกรรม “NATUR INFINIT” ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของคุณแม่ในการป้อนน้ำนมจากขวดนม ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มทดสอบ ที่พบว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถช่วยแก้ปัญหาลูกน้อยไม่ยอมดูดจุกนม ดูดไม่ทันใจ หรือสำลักได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
ในปี 2567 เนเจอร์ วางเป้าหมายด้านการลงทุนเพิ่ม 2 ด้าน คือ 1. งานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงเครื่องมือที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกของคุณแม่ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2.การเสริมสร้างระบบ CRM ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าใจและเข้าถึงความต้องการของลูกค้า เช่น เก็บข้อมูลด้านปัญหาในการเลี้ยงลูก เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์และพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณแม่ได้อย่างตรงจุด
ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มขวดนมและจุกนม มีมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมยังคงมีการเติบโตสูงด้วยการแข่งขันที่เข้มข้น ซึ่งช่องทางออนไลน์มีผลต่อการตัดสินใจของคุณแม่อย่างมาก ทั้งนี้คุณภาพผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ตรงความต้องการของคุณแม่ จะช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืน ท่ามกลางกระแสสินค้าจากต่างประเทศที่เข้ามาตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่มากขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ได้แก่ ขวดนม จุกนม ถุงเก็บน้ำนม เครื่องปั๊มนม เครื่องนึ่งขวดนม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และ accessory อื่นๆ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายทางร้านขายสินค้าแม่และเด็กทั่วประเทศ ร้านขายยา ร้านค้าปลีก-ส่ง และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงมีวางจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ซึ่งสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Shopee, Lazada, Tiktok และ Line Shopping ค้นหาชื่อร้านค้าว่า NATUR
นายทวี เอกสุวรรณเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนเจอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวทิ้งท้ายว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แบรนด์ “NATUR” ได้คว้ารางวัล Mommy’s Choice : Best Baby Bottle & Nipple Product ในงานประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Awards 2024 ซึ่งเป็นรางวัลสุดยอดแบรนด์สินค้าและไลฟ์สไตล์แม่ลูกอันดับ 1 ในใจคนไทย (กลุ่มสินค้าขวดนมและจุกนม) จากผลโหวตของคุณแม่ตัวจริงกว่า 30,000 ท่าน โดยภายในงานจัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ FAMILY Well-Being ที่ต้องการปลูกฝังรากฐาน "ความเป็นอยู่ที่ดี" เพื่อให้ทั้งครอบครัวมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/NaturCorporation