แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำผู้นำในการผลิตก๊าซเพื่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่
แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) ในเครือลินเด้ กรุ๊ปเผยความสำเร็จจากการควบรวมกิจการและการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจอย่างสมบูรณ์ระหว่างลินเด้ และแพรกซ์แอร์ ในระดับโลก สู่การเป็นบริษัทหนึ่งเดียวกัน ผนวกจุดแข็งเข้าด้วยกันเพื่อเสริมศักยภาพให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น มุ่งเพิ่มคุณค่าทั้งในด้านสินค้า และการบริการ พร้อมตอกย้ำครบรอบ 50 ปีในการดำเนินธุรกิจ
คุณวิภา จินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือลินเด้ กรุ๊ป กล่าวว่า แพรกซ์แอร์เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และถือเป็นผู้นำในการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มีโรงงานผลิตใหญ่ที่สุดประเทศไทย และเป็นโรงงานผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และต่อมาได้มีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทแม่ของลินเด้ และแพรกซ์แอร์ในระดับโลก สู่การเป็นบริษัทหนึ่งเดียวกันภายใต้ชื่อ ลินเด้ กรุ๊ป
อย่างไรก็ตาม การควบรวมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในประเทศไทยของทั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แต่อย่างใด โดยในอนาคตแพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จะยังคงอยู่เช่นเดิม และมีการดำเนินงานที่เหมือนเดิมในทุกๆ ด้าน เพราะการควบรวมที่กล่าวไปนั้นเป็นการควบรวมกันในอัตราส่วน 50 : 50 ของบริษัทแม่ทั้ง 2 บริษัท
โดยเป็นการควบรวมเพื่อนำจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทมารวมกัน ไม่ว่าจะเป็น ด้านวิศวกรรม ด้านเทคโนโลยีเพื่อแก๊สอุตสาหกรรม ซึ่งเมื่อรวมกิจการแล้วจึงได้นำ Best Practice หรือ Good Solution ของแต่ละบริษัทมาใช้ โดยกลายเป็นนวัตกรรม และเทคโนโลยีของลินเด้ กรุ๊ป
นอกจากนี้ ในด้านนโยบายการบริหารจัดการ ด้านกลยุทธ์ หรือทิศทางในการดำเนินธุรกิจของแพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) และลินเด้ (ประเทศไทย) จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากมีผู้บริหารชุดเดียวกัน โดยจะมุ่งส่งเสริมศักยภาพให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้ง มุ่งเพิ่มคุณค่าให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านของสินค้า และด้านการบริการ
“ก่อนที่จะมีการควบรวมกัน แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จะมีความแข็งแกร่งในด้านการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือเรียกได้ว่าเป็น Market Leader แต่ในด้านแอร์แก๊ส (Airgas) ซึ่งประกอบด้วย ก๊าซออกซิเจน (O2) ก๊าซไนโตรเจน (N) และก๊าซอาร์กอน (Ar) แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จะมีอยู่เพียงโรงงานผลิตแห่งเดียวเท่านั้น ขณะที่ ลินเด้ (ประเทศไทย) จะมีความแข็งแกร่งในด้านแอร์แก๊ส (Airgas) มากกว่า รวมทั้ง ด้านซัพพลายในรูปแบบของเหลว หรือซัพพลายเป็นแก๊สผ่านระบบท่อ ในส่วนนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของลินเด้ (ประเทศไทย)
อีกทั้ง ลินเด้ (ประเทศไทย) ยังถือเป็นผู้นำในด้านการซัพพลายระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซัพพลายก๊าซออกซิเจน (O2) ก๊าซไนโตรเจน (N) ผ่านระบบท่อซึ่งแพรกซ์แอร์ไม่มี ดังนั้น เมื่อ 2 บริษัทได้ควบรวมกิจการกันจึงทำให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยชื่อแบรนด์ของแพรกซ์แอร์อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากอยู่ภายใต้การบริหารงานในเครือของลินเด้ กรุ๊ป แต่ชื่อนิติบุคคลในประเทศไทยจะยังคงมีอยู่เช่นเดิม” คุณวิภากล่าว
อนึ่ง บริษัท แพรกซ์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือลินเด้ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2515 ปัจจุบันดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปี ซึ่งบริษัทถือเป็นผู้นำในด้านการผลิต จัดจำหน่าย และการบริการ สามารถนำเสนอก๊าซอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซออกซิเจน (O2) ก๊าซไนโตรเจน (N) และก๊าซอาร์กอน (Ar) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) บริษัทมีความภูมิใจในการจัดส่งสินค้าที่ตรงเวลา และบริการติดตั้งถังบรรจุก๊าซเหลวที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการควบรวมกิจการระหว่างลินเด้ เอจี และ แพรกซ์แอร์ อิงค์ ในระดับโลก ที่เป็นไปด้วยความสำเร็จสู่การเป็นบริษัทหนึ่งเดียวกันภายใต้ชื่อ “ลินเด้ กรุ๊ป” โดยการควบรวมกิจการและการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจอย่างสมบูรณ์ดังกล่าวนั้น จะผนวกจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน ด้วยการแบ่งปันประวัติศาสตร์ ซึ่งนับย้อนหลังไปได้เกือบ 140 ปี เพื่อสร้างความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมใหม่
สำหรับลินเด้ กรุ๊ปมีประวัติความเป็นมานานกว่า 140 ปี ก่อตั้งจากมรดกนวัตกรรมที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดย มร.คาร์ล ฟาน ลินเด้ ผู้ก่อตั้งบริษัท ได้ประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีการแช่เย็น และบุกเบิกกระบวนการแยกอากาศ จนถึงวันนี้ คือ ผู้นำตลาดทางด้านก๊าซและวิศวกรรม โดยลินเด้ กรุ๊ป เป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรมและก๊าซเพื่อการอุตสาหกรรม ที่พร้อมนำเสนอนวัตกรรม และแนวทางการแก้ปัญหาที่มีความยั่งยืน เพื่อให้เกิดคุณค่ายาวนานแก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพันธกิจ คือ การให้บริการผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการบริการต่างๆ ที่เสริมประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมให้กับโลกที่มีการโยงใยถึงกันเพื่อสร้างสรรค์ให้โลกของเรามีการพัฒนามากยิ่งขึ้น
ด้านบริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในตลาดก๊าซอุตสาหกรรมในประเทศไทยมาหลายทศวรรษ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ลินเด้ ประเทศไทย ได้ขยายการดำเนินงานไปทั่วประเทศ พรั่งพร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่จัดทำเป็นอย่างดี เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท ด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการที่เชื่อถือได้
โดยลินเด้ (ประเทศไทย) เป็นผู้นำในด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์ก๊าซอุตสาหกรรมในประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2513 ซึ่งได้ทำการผลิตและจัดจำหน่ายก๊าซอุตสาหกรรม ก๊าซพิเศษ และก๊าซทางการแพทย์ และยังให้บริการที่เกี่ยวข้องกับก๊าซต่างๆ ดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึง การติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซ ท่อก๊าซ เครื่องผลิตภัณฑ์ที่โรงงานลูกค้า และงานวิศวกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญอันหลากหลายทางด้านอุปกรณ์การเชื่อมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ บริษัทมีโรงงานกระจาย 20 แห่งทั่วประเทศ และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งมอบทางเลือกที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และสามารถไว้วางใจได้ ซึ่งจะช่วยสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าของบริษัท โดยได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย ISO 9001, ISO 14001, ISO 22000, FSSC 2200, GMP, HACCP, CSR-DIW ปี 2553 และปี 2554, ISO/IEC 17025 และ ISO Guide 34.