April 27, 2024

Biz Focus Industry Issue 012, January 2014

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

25 ปี เหมราชฯ ตอกย้ำผู้นำด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม

เหมราชฯ เปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 7 หนุนองค์กรเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง โชว์ผลงานเด่นปี 56 การันตีความสำเร็จ พร้อมประกาศศักยภาพจัดงานฉลองครบรอบ 25 ปี อย่างยิ่งใหญ่ภายใต้แนวคิดCommitted to Thailand’s Sustainable Growth” เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมประเทศให้ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าปี 57 เพิ่มลูกค้าใหม่อีก 100 ราย

มร. เดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)

มร. เดวิด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทได้เปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 7 อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี 2 โดยมีพื้นที่ทั้งสิ้น 640 ไร่ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเตรียมพื้นที่และวางระบบสาธารณูปโภค และในปี 2557 จะเริ่มเปิดขายให้แก่กลุ่มลูกค้าที่สนใจ โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคืออุตสาหกรรมยานยนต์ และพลาสติก ซึ่งจะเป็นอุตสาหกรรมตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภท    

จุดเด่นของนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 7  คือการให้ความสำคัญและสนับสนุนการลดต้นทุนให้แก่ลูกค้าในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านโลจิสติกส์ด้วยทำเลที่ตั้งที่สะดวกและง่ายต่อการขนส่งสินค้าไม่ว่าจะเป็นท่าเรือหรือทางหลวงพิเศษต่างๆ  รวมถึงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่มีความทันสมัยและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าสูงสุด เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เน้นการส่งออกประมาณ 50%  

สำหรับผลงานที่โดดเด่นในปี 2556 มีดังนี้

  1. ยอดขายที่ดิน 9 เดือนแรกของปี 2556 ดีกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้  โดยสามารถขายที่ดินได้กว่า 1,978 ไร่  (791 เอเคอร์ หรือ 316 เฮกตาร์) จากสัญญา 82 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย และเป็นการขยายกิจการของลูกค้าเดิม 32 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนญี่ปุ่นราว 52% และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 44%
  2. บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน 9 เดือนแรกในปี 2556 จำนวน 6,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% มีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก 2,086 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ราว 30%
  3. บริษัทได้ปรับประมาณการยอดขายปี 2556 ครั้งที่ 3 เป็น 2,300 ไร่
  4. การเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 7 ภายใต้ชื่อ “นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี 2” 
  5. การร่วมมือมือกับกัลฟ์ เจพีเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยอง
  6. บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์ และกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ได้เช่าโรงงานสำเร็จรูปที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ดเพื่อผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ “MG”
  7. บริษัท มาสด้า พาวเวอร์เทรน แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตระบบส่งกำลังแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)

มร. เดวิด นาร์โดน กล่าวว่าบริษัทได้จัดงานฉลองครบรอบ 25 ปีไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยได้ตอกย้ำถึงพันธกิจ “Committed to Thailand’s Sustainable Growth” ที่บริษัทยึดถือเสมอมา เส้นทางสู่ความสำเร็จของเหมราชฯ เริ่มจากการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี เมื่อปี 2531 เจ็ดปีต่อมา บริษัทได้นำแนวคิดการจัดกลุ่มอุตสาหกรรม (คลัสเตอร์) มาใช้กับอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิผล โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มลูกค้าอย่างเหนียวแน่น

แนวคิดดังกล่าวเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ 25 ปีของบริษัท การสร้างคลัสเตอร์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นที่นิคมอุตสาหรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดช่วยให้เหมราชฯ มีความโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน และยังช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยมีบทบาทในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกมากขึ้นอีกด้วย จากพันธกิจที่จะพัฒนาประเทศสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน เหมราชฯ ได้ดำเนินการภายใต้แนวคิด We Grow, We Care and We Share โดย We Grow คือแนวทางการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศด้วยระบบสาธารณูปโภคที่เป็นเลิศ

“จากการวางรากฐานอย่างมั่นคงนี่เอง เหมราชฯ จึงสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 มาได้ ก่อนจะเดินหน้าขยายธุรกิจสู่การเปิดโรงงานสำเร็จรูปแห่งแรกขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) หรือ ESIE ในปี 2542 ตามมาด้วย เดอะพาร์ค ชิดลม โครงการที่พักอาศัยระดับหรูซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2547 และสามารถคว้ารางวัลมาเป็นเครื่องประกันคุณภาพได้อีกด้วย” มร. เดวิด นาร์โดนกล่าว

นอกจากนี้ เหมราชฯ ยังได้ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างต่อเนื่องด้วยการขยายธุรกิจสู่การให้บริการอาคารคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งทำให้การดำเนินงานของลูกค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น ปัจจุบัน เหมราชฯ มีนิคมอุตสาหกรรมรวม 7 แห่ง มีพื้นที่รวมกันทั้งสิ้น 39,109 ไร่ (15,600 เอเคอร์/ 6,300 เฮกตาร์) รวมทั้งยังมีโลจิสติกส์พาร์คอีก 4 แห่ง และโรงงานสำเร็จรูปให้เช่ารวมพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร สำหรับในส่วนของลูกค้า บริษัทมีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 605 ราย ภายใต้สัญญา 914 สัญญา โดยในจำนวนนี้มีราว 212 บริษัทที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  และก่อให้เกิดการจ้างงานอีกนับแสนอัตรา

“ความสำเร็จทั้งหมดนี้จะเป็นไปไม่ได้เลยหากปราศจากการสนับสนุนจากลูกค้าของเราที่ได้ร่วมกันผลักดันประเทศให้มีบทบาทสำคัญต่อการวางรากฐานอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความสำเร็จของอีกหลายธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผมมั่นใจว่าช่วงเวลาอีก 25 ปีข้างหน้าจะนำความสำเร็จมาให้เหมราชฯ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า 25 ปีที่ผ่านมา” มร.เดวิด นาร์โดนกล่าว

นอกเหนือจากที่ดินและโรงงาน รวมทั้งอาคารคลังสินค้าให้เช่า เหมราชฯ ยังให้บริการระบบสาธารณูปโภคและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิตน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า ความเชี่ยวชาญในการให้บริการเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เหมราชฯ ตัดสินใจขยายธุรกิจสู่การผลิตไฟฟ้าโดยร่วมทุนกับ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด(มหาชน) ก่อตั้งโรงไฟฟ้ากำลังผลิต 660 เมกะวัตต์ ภายใต้โครงการโรงไฟฟ้าอิสระ หรือ Independent Power Producers (IPP) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยเริ่มดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าในปี 2555 เพื่อตอบสนองอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและลดภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุนของภาครัฐ

“ในอนาคต เรามีแผนงานขยายธุรกิจ โดยการขยายนิคมอุตสาหกรรม โรงงานสำเร็จรูป โรงงานสำเร็จรูปที่สร้างตามความต้องการของลูกค้า และอาคารคลังสินค้าเพิ่มเติม นอกจากนี้เรายังจะขยายศักยภาพด้านสาธารณูปโภค และลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและอื่นๆ” มร.เดวิด นาร์โดน กล่าว

ในด้านการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เหมราชฯ ได้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ We Care แม้ว่าธุรกิจหลักของเหมราชฯ จะเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับภาคอุตสาหกรรม แต่การจัดการสิ่งแวดล้อมก็ยังเป็นประเด็นที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ โดยแนวคิดการจัดกลุ่มอุตสาหกรรมที่บริษัทนำมาใช้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังช่วยยกระดับการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การกำจัดขยะด้วยวิธีการฝังกลบช่วยแยกของเสียไม่ให้หลุดรอดออกไปสู่พื้นที่โดยรอบ ในขณะที่ระบบบำบัดน้ำเสียด้วยการเติมออกซิเจนลงในน้ำและใช้จุลินทรีย์เป็นตัวย่อยสลาย ก็ช่วยให้นำน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้หลากหลายวัตถุประสงค์

เหมราชฯ ยังเป็นบริษัทเอกชนแห่งแรกที่มีการติดตั้งระบบตรวจติดตามสิ่งแวดล้อมแบบตามเวลาจริง (Real Time) ที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) ภายใต้ชื่อศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม E:mc^2 (Environmental Monitoring and Control Center) ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลด้านคุณภาพน้ำและอากาศ รวมถึงระดับมลพิษทางเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลออนไลน์ตามเวลาจริงแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเป็นช่องทางรับฟังข้อคิดเห็นจากชุมชนโดยรอบอีกด้วย

นอกเหนือจากพันธกิจด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงตามแนวคิด We Share โดยตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เหมราชฯ ได้ให้การสนับสนุนด้านการศึกษาแก่โรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ระยอง และสระบุรี ในรูปของทุนการศึกษาไปจนถึงกิจกรรมค่ายศิลปะ ปัจจุบัน เหมราชฯ มีกิจกรรม CSR ร่วมกับโรงเรียนต่างๆ จำนวน 53 โรงเรียน ครอบคลุมนักเรียนรวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 คน

นอกจากนี้ เหมราชฯ ยังได้ร่วมมือกับมูลนิธิหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) เพื่อสนับสนุนและพัฒนาครูตามโรงเรียนต่างๆ โดยรอบพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ดผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งได้ส่งเสริมชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบริเวณมาบตาพุดและบ้านฉางในอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนใช้ชีวิตอย่างพอเพียง และเพิ่มโอกาสการจ้างงานผ่านการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม 

“เหมราชฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าแนวคิดนี้จะขับเคลื่อนบริษัทและชุมชนในพื้นที่ให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอีก 25 ปี ข้างหน้า” มร. เดวิด นาร์โดนกล่าว

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2557 ประกอบด้วย 1. การประชาสัมพันธ์เพื่อเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆทราบ ผ่านสื่อในช่องทางต่างๆ ตามแผนการส่งเสริมการตลาดที่วางไว้ 2. ตั้งเป้าลูกค้ารายใหม่ในปี 2557 จำนวน 100 ราย พร้อมทั้งขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเดิมให้มากขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าเดิมที่ต้องการขยายกิจการ และกลุ่มลูกค้าใหม่ที่สนใจทำเลที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมในเครือของเหมราชฯ ทั้ง 7 แห่ง

www.wha-group.com

 

 

 

Page Visitor

010634551
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
2047
4975
32069
129167
137776
10634551
Your IP: 18.218.61.16
2024-04-27 11:51
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.