December 22, 2024
01Top_Nine-Plus

Biz Focus Industry Issue 015, April 2014

User Rating: 3 / 5

Star ActiveStar ActiveStar ActiveStar InactiveStar Inactive
 

เปิดวิสัยทัศน์ผู้บริหาร “อมตะนคร” ลั่นไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาองค์กร

คุณวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษ Biz Focus เกี่ยวกับโครงการในอนาคต การเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ AEC รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ดังนี้

คุณวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)

Biz Focus : โครงการในอนาคตมีแผนดำเนินการอย่างไร

คุณวิบูลย์ : ปกติผมวางแผนและคาดการณ์อะไรไว้ไม่เคยพลาดนะ แต่ตอนนี้สถานการณ์หลายอย่างยังไม่นิ่ง ก็คาดการณ์ได้ยาก อย่างไรก็ตาม การที่จะวางแผนทำโครงการอะไร ผมจะ Flow Cash Under Protect อยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็จะไม่ Flow Cash แบบ Conservative นะ ผมค่อนข้างจะทำงานเชิงรุกและค่อนข้างจะ Aggressive ด้วยซ้ำ เพราะผมมั่นใจว่าบวกลบ 10% ผมสู้ไหว มันเป็นเรื่องของ Challenge นะ เพราะการทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเราตั้งแบบไม่ท้าทาย เราจะตั้งไปทำมั้ย ผมไม่ใช่พวกหน่อมแน้ม ผมเป็นประเภท Fighter ยิ่งถ้าเราลุยมาก ผลสะท้อนที่ดีๆ ก็จะกลับไปที่ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และGDP ของประเทศที่เติบโตขึ้น

ผมพูดตลอดเวลาว่าเงินตรงนี้ไม่ใช่เงินกู้ แต่เป็นเงินที่เค้าเอามาลงทุนให้เราเพื่อต่อยอดต่อดอกต่อผลให้มันเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงาน การสร้างเศรษฐกิจให้กับพวกเรา เงินลงทุนส่วนนี้ก็จะหมุนเวียนกลับมาอีกหลายรอบ เงินทุนหมื่นล้านก็จะงอกเงยเป็นเจ็ดหมื่นแปดหมื่นล้าน ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องที่อมตะมั่นใจและตั้งใจไว้สูงมาก อะไรที่ไม่ดีเรารีบปรับปรุงแก้ไข เพราะเราต้องการเห็นบ้านเมืองที่เรารัก นี่คือสิ่งที่เราอยากได้ ผมจึงพัฒนาอมตะไปเรื่อยๆ เราไม่เคยหยุด ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดี เราก็ต้องคิดว่าเราควรจะทำอย่างไร เราต้องประมาณกำลังของตัวเองเหมือนกัน เงินทุกบาททุกสตางค์เราใช้จ่ายต้องมีแบบแผนที่ชัดเจน

Biz Focus : ผลประกอบการปี 2556 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่

คุณวิบูลย์ : ไม่ได้พลาดเป้าอะไรจากที่ผมได้วางไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่สำหรับแผนปีนี้เราต้องมองใหม่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง เราจึงต้องให้เวลาในการประเมินทิศทางเศรษฐกิจสักครึ่งปี เพื่อประเมินสถานการณ์และพยากรณ์แผนงานต่อไปได้

Biz Focus : มุมมองเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ AEC  

คุณวิบูลย์ : AEC เป็นเรื่องของอนาคตก็จริง แต่ว่าอนาคตจะสดใสได้ เราต้องเคลียร์ตัวเราเองให้เรียบร้อยเสียก่อน ทำบ้านเมืองของเราให้น่าอยู่ การลงทุนก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก  เรารู้กันอยู่ว่า AEC จะเกิดขึ้นปีไหน เราก็ควรจะจัดการบ้านเมืองของเราให้สะอาดให้ดูดี คำว่า “ดูดี” ไม่ได้หมายถึงว่าสะอาดเพียงอย่างเดียว บางคนมองว่ารก แต่อีกคนอาจจะมองว่าเป็นศิลปะก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ตลาดร้อยปี ตลาดโบราณ  เค้าขายความเป็นศิลปะ เค้าก็ขายได้  เราสามารถคิดให้แตกต่างกับคนอื่นประเทศอื่นได้ แต่เราอย่าคิดแตกแยกเพื่อให้บ้านเมืองของเรากลับคืนสู่สภาวะปกติ

สำหรับแผนงานที่เราเคยวางไว้ที่จะลงทุน 2,000 ล้านบาทในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เงิน 2,000 ล้านบาทอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคทั้งหมดด้วยซ้ำ เพราะเรายังต้องขยายออกไปเรื่อยๆ เรายังต้องใช้งบประมาณในการพัฒนาส่วนนี้อีกมาก เพราะเราให้ความสำคัญกับคำว่า “บริการ”มาก

Biz Focus : ผลกระทบที่ส่งผลกับอมตะต่อสถานการณ์ปัจจุบันเป็นเช่นไร

คุณวิบูลย์ :  เราอยู่ตรงนี้สบายมาก เราใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาอมตะนครแค่ 30 นาที จากอมตะนครไปอมตะที่ระยองแค่ 30 นาทีเช่นกัน อันนี้ไม่นับเรื่องอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงนะ เราอยู่ตรงนี้เป็นกึ่งกลางระหว่างกรุงเทพฯ และระยอง เพราะเรามีนิคมอุตสาหกรรมที่ระยองด้วย การดูแลและจัดการก็ทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องเผชิญกับภาวะรถติดและไม่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ก็ถือว่าในทางตรง เราไม่ได้รับผลกระทบอะไร

Biz Focus : Biz Focus มีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารของอมตะ บี.กรีม เพาเวอร์ เกี่ยวกับโครงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดย่อยเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าภายในนิคมอุตฯ  ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ในเรื่องนี้อย่างไร

คุณวิบูลย์ : มันเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้าของเราในเรื่องของการไม่ขาดแคลนจนทำให้ธุรกิจสะดุดอย่างแน่นอน เราเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งที่จะเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น คือมีทั้งทางเลือกของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่จะคอยบริการให้ลูกค้าเกิดความสบายใจ เพราะที่นี่คือประเทศของเรา เราอยากให้ประเทศของเราดีก็ต้องทำแต่เรื่องดีๆ เพราะเป็น “ประเทศของเรา”

Biz Focus : แนวทางการดำเนินงานของอมตะเป็นอย่างไร

คุณวิบูลย์ : เรามีความคิด Life Concept “เกิดที่นี่ ตายที่นี่” ช่วงเวลาระหว่างเกิดจนตายมันมีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย  เราเกิดก็โรงพยาบาล เราตายก็โรงพยาบาล แต่ในระหว่างที่เราจะโตมาเนี่ย จะต้องมีสถานที่ศึกษา สถานที่ทำงาน สถานที่สันทนาการและสถานที่อื่นๆ ที่รองรับเราในช่วงขณะที่เรามีจิตใจที่ว้าวุ่น Lifestyle ช่วงนี้มันยาวมากนะ โดยเฉพาะช่วงเวลาของคนทำงาน  สมมติว่า อายุ 22 ปี เราจบปริญญาตรี เราจะต้องทำงานจนถึงอายุ 60 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน คนเราเวลาทำงานวันละ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน วันๆนึงก็หมดละ บางทีอาจมีเหนื่อย เครียด บางทีไปสถานที่ทำงาน ทำอะไรผิดๆ ถูกๆ ถูกด่าอีก กลับมาเครียด หรือบางคนทำงานจนเหน็ดเหนื่อย เค้าก็อยากจะพักผ่อนนะ ก็อยากนอนนะ หรือ เอ๊ะ! ชั้นอยากจะไปซื้อของหน่อย ไปจับจ่ายใช้สอย ไปหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เช่น วิ่ง ตกปลา นั่งเล่น หรือกิจกรรมอื่นๆ เชิงสันทนาการ  

ดังนั้น Concept ของเราคือสร้างสถานที่เหล่านี้เพื่อรองรับช่วงเวลาที่เค้าอยู่กับเราได้มั้ย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลวิภาราม (อมตะ) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในตอนนี้ที่ใกล้จะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ เมื่อก่อนเรามีเพียงแค่โพลีคลินิกเล็กๆ แต่เรามองว่าไม่เพียงพอต่อประชากรที่มาใช้บริการ เราก็ระเบิดความคิดสร้างโรงพยาบาลขึ้นมาเลย มันเป็นหนึ่งในพื้นฐานของชีวิตตามหลักปัจจัย 4 ที่เราให้ความสำคัญ เพราะต่อไปเมื่อมีสถานที่ทำงานตรงนี้เกิดขึ้น ต่อไปก็ต้องมีครอบครัว มีลูก มี Lifestyle ที่อยู่ตรงนี้ แต่อย่างไรก็ดีโครงการพวกนี้เราค่อยๆ ทำแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป  เป็นโครงการระยะยาวที่เราจะสานต่อไปเรื่อยๆ แล้วเราก็เอาผลกำไรค่อยๆ ย้อนกลับคืนมาให้ผู้ถือหุ้นได้เห็น เหมือนกับคำกล่าวที่ว่า “Rome was not built in a day” คำนี้ใช้กับเราได้ถูกต้องที่สุด เพราะเราต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

Biz Focus : สิ่งที่อมตะอยากให้ภาครัฐสนับสนุน

คุณวิบูลย์ : ในเรื่องของสัมปทานที่เราได้รับมา เราทำทุกอย่างอยู่ในกฎหมายและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐ รัฐมีนโยบาย เราก็ทำตามนโยบายของรัฐ  บริษัทมีนโยบาย เราก็ต้องทำตามนโยบายบริษัท นิคมอุตสาหกรรมมีนโยบาย เราก็ทำตามนโยบายของนิคมอุตสาหกรรม แต่นโยบายทั้งหลายทั้งมวลจะต้องสอดคล้องกัน ถ้าไม่สอดคล้องกันก็ยุ่ง เราจะเดินไม่ถูกทาง เราจะต้องจูนกันให้สอดคล้องกันให้ได้มากที่สุด  

Biz Focus : มุมมองในเรื่องการแข่งขันในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมอย่างไร

คุณวิบูลย์ : ผมไม่ได้ยึดถือการแข่งขันเป็นสรณะอะไร เพราะนักลงทุนที่เข้ามา เค้ารู้อยู่แล้วว่าควรจะเลือกอย่างไร เค้าจะต้องคิดตาม logistic ของเค้า ยกตัวอย่างเช่น โรงงานแม่อยู่ภาคเหนือ โรงงานลูกจะมาตั้งที่ภาคตะวันออกไหวมั้ย ค่าขนส่งมันไม่คุ้มอยู่แล้ว เป็นต้น แต่เราก็มั่นใจว่าทำเลของเราเป็นทำเลที่ดีเยี่ยมและเหมาะสม การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ต้องใช้การขนส่งทางทะเล เรามีโลเคชั่นที่ใกล้ทะเลจึงเป็นจุดที่เรามั่นใจอย่างนึงได้เช่นกัน นอกจากนั้น รัฐบาลก็มีการลงทุนโรงกลั่นและโครงการอีกมากมายที่มาลงตรงนี้เพราะอยู่ใกล้กับทะเลและเมืองหลวงมากที่สุด ฉะนั้นเรื่องการแข่งขันผมไม่ได้กลัว คนลงทุนมีทุนมาอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่เค้าจะเปรียบเทียบ คือ การบริการ การทำธุรกิจนิคมฯ ไม่ได้ขายเพียงที่ดิน เราขายการบริการ CEO ของเราให้ความสำคัญกับเรื่องการบริการมาเป็นอันดับ 1 

Biz Focus : แนวคิดในเรื่องการบริหารบุคลากรให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันทำอย่างไร

คุณวิบูลย์ : ผมทำอย่างนี้ อะไรที่คุณทำไม่ได้หรือที่มันเกินขีดความสามารถของคุณเนี่ย คุณก็ปล่อยมันไปเลยจะไปแบกไว้ทำไม แล้วเวลาที่จะทำอะไรให้ใคร เราลำบากนิดนึง ไม่เป็นไร แต่ทำให้เค้าสบายขึ้น เราก็ไม่ถึงขั้นลำบากแล้วตาย ให้ลองทำดูก่อนว่าทำได้ไม่ได้ แต่อย่าบอกเลยว่าทำไม่ได้ ให้ลองทำก่อน ให้รู้จักการลำดับความสำคัญก่อนหลัง  

Biz Focus : อยากให้ฝากข้อคิดถึงผู้ประกอบการ

คุณวิบูลย์ : เมืองไทยเป็นประเทศที่ผมเข้าใจว่าไม่ได้มีความรุนแรง  ไม่ได้น่ากลัวเหมือนอย่างที่เห็นในภาพ คนไทยจริงๆ ลึกๆ แล้วไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไรกันขนาดนั้น เราค่อนข้างจะรักกันด้วยซ้ำ ปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มันเป็นเพียงแค่จุดเล็กๆ เราต้องดำเนินชีวิตตามปกติของเราไป ไม่ต้องระแวดระวังอะไรมากมาย ตอนนี้ธุรกิจก็สามารถที่ดำเนินต่อไปได้ ไม่ได้ถึงขั้นว่าหยุดไปเสียทั้งหมดและเราควรมองว่าภาพเหล่านี้คือวิวัฒนาการของประชาธิปไตยของประเทศไทย

 

Page Visitor

013012773
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
6428
14397
113308
315287
505277
13012773
Your IP: 18.117.101.250
2024-12-22 11:06
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.