GCAP ผนึกกองทุน AO FUND พลิกโฉมครั้งใหญ่ เตรียมบุกธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร
เปิดศักราชปีกระต่ายทอง GCAP หรือ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 8 มี.ค. เพื่อขออนุมัติการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน PP และเตรียมจัดตั้งบริษัทย่อยบุกธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร ชูกลยุทธ์การสร้างรายได้จากธุรกิจ Non Lending Business ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
นายอนุวัตร โกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. จี แคปปิตอล กล่าวว่า “AO FUND มีนโยบายการร่วมลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจกับ GCAP ในระยะยาว ผนึกความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทางธุรกิจ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้ที่มีความหลากหลายและการเติบโตร่วมกันในอนาคต”
ในปี 2566 เป็นต้นไป GCAP ชูกลยุทธ์การเติบโตใน 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Lending Business เป็นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรที่ GCAP มีความเชี่ยวชาญทางธุรกิจมายาวนาน และมีฐานลูกค้ากลุ่มเกษตรกรที่ใช้บริการซึ่งสามารถต่อยอดทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และ Non-Lending Business เป็นการสร้างธุรกิจและรายได้นอกเหนือจากธุรกิจสินเชื่อ เช่น โครงการสร้างสนามบินที่เกาะเต่า และโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร ที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ เพื่อดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะเป็นการขยายธุรกิจเพื่อสร้างรายได้จาก Non Lending Business โดยธุรกิจหลักทรัพย์ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและมีโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ซึ่งคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน การผนึกกำลังของ GCAP ร่วมกับกองทุน AO FUND ซึ่งมีเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุน จะทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จและสร้างฐานรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องได้ในอนาคต และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักลงทุน
การออกหุ้นเพิ่มทุน PP ให้กับกองทุน AO FUND ในครั้งนี้ จะทำให้ AO FUND ถือหุ้น GCAP ในสัดส่วน 19.56% เงินทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุนนี้ จะนำมาจัดตั้งบริษัทย่อย 2 บริษัท เพื่อดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โดย GCAP จะถือหุ้นในสัดส่วน 100%
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจัดตั้ง 2 บริษัทย่อย เพื่อรองรับการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ครบวงจร โดยการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ก. ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจด้านการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์, การค้าหลักทรัพย์, การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์, การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน, การจัดการกองทุนรวม, การจัดการกองทุนส่วนบุคคล, กิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ค. ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจด้านการจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุนฯ การค้าหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุนฯ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุนฯ การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และการจัดการเงินร่วมลงทุน
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2566 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) ในวันที่ 8 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป