บุญถาวร จับมือ Google Cloud เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและพนักงานด้วย Generative AI
ในฐานะผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ บุญถาวรจะใช้ความสามารถด้าน Generative AI ของ Google Cloud เพื่อเร่งการตอบสนองต่อข้อซักถามที่ซับซ้อน ปรับปรุงประสิทธิภาพให้กระบวนการแบ็คเอนด์เป็นอัตโนมัติ และช่วยเหลือลูกค้าในการออกแบบบ้านหรือห้องของตน
Google Cloud และ บุญถาวร หนึ่งในผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ในบ้านและวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประกาศการเริ่มใช้ความสามารถด้าน Generative AI และการจัดการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ Google Cloud เพื่อให้บุญถาวรขับเคลื่อนการเติบโตสู่การเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยในด้านการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Cloud AI ชั้นนำของ Google Cloud บุญถาวรสามารถสร้างและนำร่องแชทบอท AI ที่สร้างได้ตั้งแต่เริ่มต้นภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง
คุณหทัยวุฒิ ทวีวโรดมกุล รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีสารสนเทศ บุญถาวร กล่าวว่า “การนำ Generative AI มาใช้เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันนั้น เราจำเป็นต้องสร้าง ทดสอบ และปรับปรุงแนวคิดใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีให้ได้อย่างมีกลยุทธ์และรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่ง Google Cloud ได้มอบเครื่องมือและทรัพยากร Generative AI ที่ใช้งานง่ายและผสานรวมกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ทำให้ทีมสามารถจัดการกับการใช้งานที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดายแม้ว่าจะไม่มีประสบการณ์ด้าน AI มากนักก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เราพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็วในการนำ Generative AI มาใช้กับธุรกิจหลักต่าง ๆ ของบุญถาวร”
เสริมศักยภาพของพนักงาน สร้างสัมพันธ์กับลูกค้า
บุญถาวรใช้ Vertex AI ทำให้พนักงานสามารถค้นหาข้อมูลได้รวดเร็วและลดความซับซ้อน เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยบุญถาวรได้เริ่มพัฒนาแชทบอทที่ช่วยให้ผู้ขายค้นหาข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์และสถานะคำสั่งซื้อที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที แทนที่จะต้องค้นหาลำดับรายการแคตตาล็อกหรือธุรกรรมหลายพันรายการด้วยตนเองจากแหล่งข้อมูลจำนวนมาก
คุณหทัยวุฒิ ทวีวโรดมกุล รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีสารสนเทศ บุญถาวร กล่าวว่า “เมื่อลูกค้าสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บางรายการหรือสถานะการจัดส่งตามคำสั่งซื้อ การตอบคำถามที่รวดเร็วและแม่นยำถือเป็นสิ่งสำคัญในการตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งความเร็วและความแม่นยำของความสามารถจาก Generative AI ของ Google Cloud ช่วยให้พนักงานของเราค้นหาข้อมูลทุกประเภทจากแหล่งข้อมูลแบบครบวงจรได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและใช้งานง่ายกว่าที่ผ่านมา สิ่งนี้ช่วยให้เรามอบบริการที่เหมาะสมและมีคุณภาพให้แก่ลูกค้าทั้งในแง่ของคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แต่ละรายการที่พวกเขาซื้อ รวมถึงสามารถกะเวลาที่คาดว่าจะได้รับสินค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งทำให้เราสามารถคาดการณ์กระบวนการออกแบบและต่อเติมบ้านได้ถูกต้องยิ่งขึ้นและลดความเครียดจากการทำงานได้เช่นกัน”
แชทบอทของบุญถาวรยังช่วยให้พนักงานสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องภายใน เช่น นโยบายด้านทรัพยากรบุคคลและไอที ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้จัดการได้ทันทีเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น ปริมาณการเข้าชมร้านค้าและอัตราส่วนรายได้ โดยในขณะนี้ บุญถาวรกำลังสำรวจการใช้ Vertex Retail Search and Recommendation AI ซึ่งไม่เพียงสามารถนำเสนอคำแนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลตามประวัติการซื้อของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังแนะนำลูกค้าในการออกแบบและแสดงภาพบ้านหรือห้องของตนโดยใช้การผสมผสานที่ปรับแต่งจากแค็ตตาล็อกของบริษัทได้อีกด้วย
แชทบอทของบุญถาวรยังช่วยให้พนักงานสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องภายใน เช่น นโยบายด้านทรัพยากรบุคคลและไอที ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้จัดการได้ทันทีเกี่ยวกับตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น ปริมาณการเข้าชมร้านค้าและอัตราส่วนรายได้ โดยในขณะนี้ บุญถาวรกำลังสำรวจการใช้ Vertex Retail Search and Recommendation AI ซึ่งไม่เพียงสามารถนำเสนอคำแนะนำผลิตภัณฑ์เฉพาะบุคคลตามประวัติการซื้อของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังแนะนำลูกค้าในการออกแบบและแสดงภาพบ้านหรือห้องของตนโดยใช้การผสมผสานที่ปรับแต่งจากแค็ตตาล็อกของบริษัทได้อีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก
ในคลังสินค้า บุญถาวรจะใช้โมเดล Gemini ของ Google เพื่ออ่านและส่งข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อไปยังระบบ ERP ที่มีอยู่โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเร่งการดำเนินการตามคำสั่งซื้อและลดอัตราข้อผิดพลาดได้อย่างมากเมื่อเทียบกับการจัดการเอกสารด้วยตนเอง โดย Gemini ส่งข้อมูลไปให้กับโซลูชั่น ERP และ Robotic Process Automation (RPA) ของบุญถาวรโดยตรง เพื่อลดเวลาการทำงานและต้นทุนในห่วงโซ่อุปทานของผู้ค้าปลีก
คุณหทัยวุฒิ ทวีวโรดมกุล รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีสารสนเทศ บุญถาวร กล่าวว่า “Generative AI มีศักยภาพในการปรับปรุงกระบวนการทุกรูปแบบภายในองค์กรของเราให้มีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้นจากการทำงานของพนักงานไปจนถึงการเพิ่มศักยภาพบนอีคอมเมิร์ซ ซึ่งความสามารถด้าน Generative AI ที่นำเสนอโดย Google Cloud มีความน่าสนใจสำหรับเรา ไม่เพียงเพราะเครื่องมือต่างๆ สามารถเรียนรู้และปรับใช้ได้ง่าย แต่ยังเป็นเพราะความสามารถเหล่านี้ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบอื่นและระบบของบุคคลที่สามอย่างง่ายดายและลงตัว เพื่อให้มั่นใจว่าโซลูชันใดก็ตามที่เราพัฒนาจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไม่ใช่มาเพิ่มความซับซ้อนให้กับทีมของเรา”
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการนำ Generative AI มาใช้งาน และการเติบโตของ AI ทางดิจิทัลที่กว้างขึ้น บุญถาวรได้มีการเริ่มย้ายคลังข้อมูลองค์กรจากโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรไปยัง Google Cloud โดยบุญถาวรจะใช้ BigQuery ในการจัดเก็บข้อมูลและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Generative AI อย่างเหมาะสมที่สุด รวมถึงใช้ Cortex เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่มาจากระบบ ERP ได้อย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพ
คุณอรรณพ ศิริติกุล ผู้อำนวยการ Google Cloud ประเทศไทย กล่าวว่า “บุญถาวรกำลังสร้างข้อได้เปรียบให้กับตัวเองเป็นรายแรก เพราะพวกเขาตระหนักดีว่า Generative AI นั้นจำเป็นต้องมีระบบนิเวศคลาวด์ที่ไร้รอยต่อเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุด โดยในเวลาเพียงหนึ่งปี พวกเขาได้พัฒนากลยุทธ์และกระบวนการที่แข็งแกร่งเกี่ยวกับ Gen AI ที่ให้โซลูชันในโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับพนักงานและลูกค้าของพวกเขา ซึ่งบุญถาวรเป็นแบบอย่างที่แสดงให้เห็นว่า กลยุทธ์ดิจิทัลแบบองค์รวมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเปลี่ยน Generative AI ให้เป็นมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว”