November 23, 2024

กลุ่ม KTIS ปลื้มอ้อยคุณภาพสูงขึ้น ผลผลิตเพิ่ม 10-15%

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

กลุ่ม KTIS ปลื้มอ้อยคุณภาพสูงขึ้น ผลิตน้ำตาลได้แล้วกว่า 7 ล้านกระสอบ

เผยอ้อยเข้าหีบล่าสุดมากกว่าทั้งปี 64/65 แล้ว คาดหลังปิดหีบได้ผลผลิตมากกว่าปีก่อน 10-15%

กลุ่ม KTIS เผยข้อมูลเบื้องต้นหลังเปิดรับอ้อยเข้าหีบถึงต้นเดือนมีนาคม 2566 ได้ผลผลิตอ้อยฤดูการผลิตปี 65/66 ของ 3 โรงงานรวมกว่า 6.2 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้แล้วกว่า 7 ล้านกระสอบ ซึ่งสูงกว่าทั้งปี 64/65 ที่ได้อ้อยหลังปิดหีบรวม 6.2 ล้านตัน และน้ำตาล 6.4 ล้านกระสอบ ทั้งนี้ เป็นเพราะคุณภาพอ้อยและประสิทธิภาพในการผลิตน้ำตาลสูงขึ้น โดยค่าความหวานเฉลี่ยของอ้อยปีนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 13 C.C.S. สูงกว่าปีก่อนที่ 12.1 C.C.S.

คาดหลังปิดหีบจะได้อ้อยมากกว่าปีก่อน 10-15% มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้ดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน ด้วยปัจจัยหนุนทั้งปริมาณและราคาในทุกสายการผลิต ทั้งน้ำตาลทราย เอทานอล เยื่อกระดาษ ไฟฟ้า รวมไปถึงโครงการผลิตบรรจุภัณฑ์จากเยื่อชานอ้อยบริสุทธิ์ 100%

นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจน้ำตาล และผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลผลผลิตอ้อยของกลุ่ม KTIS สำหรับฤดูการผลิตปี 2565/66 พบว่า มีอ้อยเข้าหีบแล้วกว่า 6.2 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าผลผลิตอ้อยของฤดูการผลิตทั้งปี 2564/2565 ที่ 6.2 ล้านตัน

“ที่น่ายินดีกว่าปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้น ก็คือคุณภาพอ้อยที่ดีขึ้นมาก โดยดูได้จากค่าความหวานปีนี้เฉลี่ยสูงถึง 13 C.C.S. ในขณะที่ปีก่อนเฉลี่ยเพียง 12.1 C.C.S. ทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (ยิลด์) ปีนี้สูงถึง 112.1 กิโลกรัมต่อตันอ้อย โดยผลผลิตอ้อยที่ 6.2 ล้านตัน เท่าๆ กับปีที่แล้ว สามารถผลิตน้ำตาลได้ถึง 7 ล้านกระสอบ เทียบกับปีก่อนได้น้ำตาลทรายเพียง 6.4 ล้านกระสอบ” นายสมชายกล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจน้ำตาล และผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม KTIS กล่าวด้วยว่า ปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นเพราะมีปริมาณฝนมากกว่าปีก่อน และการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพของอ้อย โดยคาดว่า โรงงานจะเปิดหีบไปถึงปลายเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งจะทำให้ได้ผลผลิตอ้อยและน้ำตาลปีนี้มากกว่าปีก่อน 10-15%

ทั้งนี้ ปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นในปีการผลิตนี้จะส่งผลดีต่อทุกสายธุรกิจ  เพราะได้โมลาส หรือกากน้ำตาลไปผลิตเอทานอลมากขึ้น ได้ชานอ้อยไปป้อนให้โรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงงานผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อยมากขึ้นด้วย อีกทั้งราคาน้ำตาล ไฟฟ้า เอทานอล และเยื่อกระดาษ ก็ดีขึ้นกว่าปีก่อน จึงมั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS จะดีขึ้นกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยบริสุทธิ์ 100% ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงถึง 50 ตันต่อวัน หรือประมาณ 3 ล้านชิ้นต่อวัน โดยมีเครื่องจักร 50 เครื่อง ที่สามารถผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยออกสู่ตลาดได้หลากหลายรูปแบบ เช่น จาน ชาม กล่อง ถาดหลุม เป็นต้น และยังมีรายได้ที่จะเข้ามาเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่งจากโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) เฟส 1 ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท จีจีซี เคทิสไบโออินดัสเทรียล จำกัด หรือ GKBI บริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่ม KTIS และกลุ่ม PTT ซึ่งมีโรงงานผลิตเอทานอลจากน้ำอ้อย กำลังการผลิต 6 แสนลิตรต่อวัน และโรงไฟฟ้ากำลังการผลิตติดตั้งรวม 85 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 520 ตัน โดยมีสัญญาขายไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์

Page Visitor

012563628
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
17324
19290
124921
371419
432245
12563628
Your IP: 3.15.34.50
2024-11-23 22:38
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.