SAF ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังเข้าสู่ช่วงการพลิกฟื้น หลังภาคการผลิตในอุตสาหกรรมฟื้นตัว
เปิดตัวผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ เร่งโครงการคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ พร้อมลุยตลาด CLMV เพิ่มเติม
‘บมจ. เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล หรือ SAF’ ผู้นำธุรกิจเหล็กกล้าเกรดพิเศษคุณภาพระดับโลกและการให้บริการชุบแข็งสุญญากาศ รุกตลาดครึ่งปีหลังรับโอกาสภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ฟื้นตัว เดินหน้าลงทุนโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่อัพการจัดเก็บสินค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว หนุนศักยภาพการแข่งขันพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ประเดิมผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ในไตรมาส 3 ดันการเติบโต คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2566
ดร.พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ SAF ผู้นำธุรกิจเหล็กกล้าเกรดพิเศษคุณภาพระดับโลกและการให้บริการชุบแข็งสุญญากาศ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเป็นช่วงการพลิกฟื้น หลังผลงานใน 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 86.61 ล้านบาทและขาดทุน 0.67 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดในปีนี้ โดย SAF อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการคลังสินค้าและโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มความจุคลังสินค้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือเพิ่มเป็น 4,000 ตัน จากเดิมที่มีคลังสินค้า 2 แห่ง จัดเก็บวัตถุดิบได้สูงสุด 2,000 ตัน โดยบริหารเงินตามวัตถุประสงค์ในการระดมทุน IPO ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและส่งเสริมศักยภาพการดำเนินงานธุรกิจของ SAF ให้พร้อมรองรับการฟื้นตัวภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมอาหารและบรรจุภัณฑ์ที่มีศักยภาพเติบโตสูง รวมถึงการให้บริการชุบจากระบบเตาชุบไนไตรดิ้งที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของ SAF อย่างมีนัยสำคัญต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ SAF ยังแสวงหาโอกาสการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต โดยการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเวียดนามมีความคืบหน้าต่อเนื่องและคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ในเร็วๆ นี้ สำหรับประเทศ สปป. ลาว เป็นอีกหนึ่งตลาดที่เตรียมเดินทางไปศึกษาตลาดและหาพันธมิตรในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เช่นกัน