SCGP ลงทุนในวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) ต่อยอดกลยุทธ์
ขยายการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ
SCGP เข้าถือหุ้นร้อยละ 90 ในบริษัทวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ “VEM-TH” เสริมความแข็งแกร่งกลยุทธ์สร้างการเติบโตธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการ เพิ่มศักยภาพและต่อยอดการผลิตสินค้าของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L. รองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ว่าบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 90 ในบริษัทวีอีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด (VEM-TH) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสมรรถนะสูงจากการฉีดขึ้นรูปพอลิเมอร์ โดยมีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 4.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146.2 ล้านบาท และจะเริ่มแสดงผลประกอบการของ VEM-TH ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567
การลงทุนในรูปแบบการเติบโตผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร (Merger and Partnership: M&P) นี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องปฏิบัติการของ SCGP เพื่อตอบสนองความต้องการใช้สินค้าที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าลงทุนใน Deltalab S.L. ผู้เชี่ยวชาญการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์จากประเทศสเปน และ Bicappa Lab S.r.L ผู้เชี่ยวชาญการผลิตอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ปิเปตต์ทิปจากประเทศอิตาลี โดย VEM-TH มีฐานการผลิตในจังหวัดระยอง ประกอบด้วยสายการผลิตสินค้ารวม 30 สายการผลิต ที่มีมาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพสำหรับเครื่องมือแพทย์ (ISO 13485) และห้องปลอดเชื้อที่ผ่านมาตรฐานรับรองความสะอาดของอากาศ (Cleanroom) Class 8 และ Class 7 ผลิตสินค้าคุณภาพสูงกว่า 59 ล้านชิ้นต่อปี โดยในปี 2566 VEM-TH มีรายได้ประมาณ 302 ล้านบาท รวมถึงมีสินทรัพย์ 455 ล้านบาท
VEM-TH มีฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการแพทย์ การบิน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ ซึ่งครอบคลุมตลาดหลากหลายประเทศ อาทิ ไทย สหรัฐอเมริกา และจีน VEM-TH จะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าของ Deltalab S.L. และ Bicappa Lab S.r.L. เพื่อรองรับความต้องการและส่งเสริมให้ SCGP สามารถขยายเครือข่ายลูกค้าในต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่งและครอบคลุมยิ่งขึ้น