บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด มอบเงิน 3 ล้านบาท สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลในราชบุรี 9 แห่ง ในโอกาสครบรอบ 30 ปี โรงงานราชบุรี
บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายมายองเนส น้ำสลัด น้ำส้มสายชู และสินค้าพร้อมทานตราคิวพี โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัทคิวพี คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ บริษัทในเครือสหกรุ๊ป มอบเงินสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั้งหมด 9 แห่ง ในจังหวัดราชบุรี รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3 ล้านบาท เพื่อเป็นการสนับสนุนให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ราชบุรีได้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
คุณพรทิพย์ ภูติภัทร์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมอย่างยั่งยืน” ปัจจุบันโรงงานราชบุรีดำเนินกิจการมา 30 ปี และเป็นกำลังการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งตระหนักได้ว่าคิวพีเติบโตมาได้อย่างมั่นคง โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และบริษัทอื่น ๆ ในเครือสหพัฒน์ รวมถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนจังหวัดราชบุรี
ในโอกาสนี้ บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้จัดงานฉลองครบรอบ 30 ปี โดยมีแขกผู้เกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์, Mr. Amane Nakashima Chairman Kewpie corporation, ผู้บริหารจากบริษัทในเครือสหพัฒน์ ผู้บริหารจากบริษัท Kewpie Corporation และตัวแทนจากหน่วยงานราชการของจังหวัดราชบุรี โดยในงาน บริษัท คิวพี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มอบเงิน 3 ล้านบาท สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้กับ 9 โรงพยาบาลในราชบุรี และอาณาเขตใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมการขาดแคลนด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งคิวพีมีนโยบาย CSR ที่ให้ความสำคัญใน 3 เรื่องใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ 1. เรื่องสุขภาพ อาทิ การบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ 2. เรื่องการศึกษา อาทิ การบริจาคอุปกรณ์ทางการศึกษา 3. เรื่องสิ่งเเวดล้อม อาทิ การดูแลต้นไม้ และการดูแลสัตว์ โดยก่อนหน้านี้ก็มีการบริจาคให้กับโรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และสภากาชาดไทย
สำหรับโรงงานราชบุรี ได้เริ่มเปิดดำเนินการผลิตครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2537 บนพื้นที่กว่า 65 ไร่ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 54,000 ตัน/ปี และมีพนักงานที่ปฏิบัติงานกว่า 1,100 คน โดยได้รับการรับรองระบบมาตรฐานการผลิตจากหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ GMP&HACCP, FSSC 22000, Halal เป็นต้น และกำลังก่อสร้างโรงงานใหม่ เพื่อขยายการผลิตมายองเนส คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี พ.ศ. 2568 และไม่ได้ขายเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งในโซนอาเซียน โซนยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์อีกด้วย”