"โกลเบล็ก" คัด 12 หุ้นเด่น ช้อปดีมีคืนปี 66
บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway ออกข้าง จับตาการประกาศงบปี 2565 ของกลุ่มแบงก์ และการกลับมาเปิดประเทศของจีน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยช่วงปีใหม่และวันตรุษจีน รวมทั้งการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,670-1,700 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ ช้อปดีมีคืนปี 66 ชู BJC-CPALL-MAKRO-CRC-COM7-SPVI-CPW-JMART-HMPRO-ZEN-M -AU เด่น
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีโอกาส Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนติดตามการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มทยอยประกาศตลอดสัปดาห์นี้
อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 64.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 60.7 หลังจากแตะระดับ 59.7 ในเดือนธ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจถดถอย และทางด้านจีนกลับมาเปิดบริการรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงระหว่างจีน-ฮ่องกงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางขาเข้า
ประกอบกับสถานการณ์ในประเทศในช่วงเดือนม.ค.ยังเป็นช่วงไฮซีซั่นในการจับจ่ายใช้สอยช่วงปีใหม่และวันตรุษจีน รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับการที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,670-1,700 จุด
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ อาทิ การรายงานผลประกอบการงวดปี 2565 ของกลุ่มธนาคารภายในวันที่ 21 มกราคมนี้ และสัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค และวันที่ 25 ม.ค. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
ด้านปัจจัยต่างประเทศ วันที่ 17 ม.ค. จีน รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และตัวเลข GDP สำหรับงวด 4Q65 อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค. วันที่ 18 ม.ค. ผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค. วันที่ 19 ม.ค. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือนม.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นทีได้ประยชน์จากโครงการช้อปดีมีคืนปี 66 ได้แก่ BJC, CPALL, MAKRO, CRC, COM7, SPVI, CPW, JMART, HMPRO, ZEN, M และ AU
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินสัปดาห์นี้ ยังคงต้องจับตาประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของสหรัฐ ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น หลังต่างฝ่ายเริ่มตอบโต้กันต่อเนื่องจากการงดออกวีซ่า และมาตรการป้องกันโควิด-19 ในการเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
โดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่งหลังตัวเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มอ่อนตัวลงสอดคล้องกับการชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า หนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้น ระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,850$/oz แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม