PPS งานแน่น โชว์งบ 9 เดือน รายได้รวม 311.41 ล้านบาท กำไร 18.08 ล้านบาท
PPS โชว์ผลประกอบการงวด 9 เดือน 65 รายได้รวม 311.41 ล้านบาท กำไร 18.08 ล้านบาท กำไรเติบโต 21.40% กระแสเงินสดดี พร้อมชำระหนี้เงินกู้ ทิศทางไตรมาส 4/65 แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เร่งส่งมอบงานตามแผน เดินหน้าเสนองานรัฐ-เอกชน หนุน Backlog 530 ล้านบาท ลุ้นรับค่าจ้างการต่อสัญญา AOT ตอกย้ำรายได้จากการบริการเข้าเป้า 400 ล้านบาท
ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 311.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 296.54 ล้านบาท จำนวน 14.87 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% และมีกำไรสุทธิ 18.08 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.89 ล้านบาท จำนวน 3.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.40%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 มีรายได้รวม 108.10 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 111.45 ล้านบาท จำนวน 3.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10.57 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมีกำไรสุทธิ 16.27 ล้านบาท จำนวน 5.7 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการโดยรวมบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากโครงการที่รับมาทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งส่งมอบงานโครงการควบคุมงานระยะสั้นจากภาคเอกชนได้ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่เมื่อเทียบกับรายได้จากการให้บริการในช่วงไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการควบคุมงาน และสามารถรับรู้รายได้ตามแผนที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้มีความสามารถในการทยอยชำระหนี้หุ้นกู้เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายทางด้านดอกเบี้ยได้
ขณะที่ ทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 แนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี โดยบริษัทเร่งส่งมอบงาน เพื่อทยอยรับรู้รายได้จากโครงการที่ดำเนินการ อาทิ กลุ่มโครงการจากท่าอากาศยานไทย โครงการพัฒนาพื้นที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนซี โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม โครงการ Dusit Central Park โครงการ Emsphere และโครงการจากกลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 530 ล้านบาท และมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีกจำนวนกว่า 30 ล้านบาท โดยอยู่ในระหว่างเสนองานเพื่อเติม Backlog อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าที่ดีในการเจรจามูลค่าที่ปรึกษาสำหรับการต่อสัญญาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ได้ในปีนี้ บริษัทเชื่อว่าจะสามารถส่งมอบงานและรับรู้รายได้ตามแผนที่วางไว้ พร้อมกับมีรายได้และผลกำไรที่เติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา
