นันยาง ปลื้ม “แตะช้างดาว” ขึ้นแท่น “ซอฟต์ พาวเวอร์” ไอเทมใหม่! ของไทย
จัดคาราวานตุ๊กตุ๊กรับนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์แบบเต็มคาราเบล
คาราวานรถตุ๊กตุ๊กช้างดาว สตาร์ทเครื่อง พร้อมบิดเต็มที่แบบยกล้อ ตระเวนขับรับผู้โดยสารทั่ว กทม. ผ่านแคมเปญพิเศษรับสงกรานต์ปีนี้ “Experience Thailand with Chang Dao flip-flops” เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวและคนไทยได้สัมผัส “แตะช้างดาว” รองเท้าแตะยางพารา 100% จากประเทศไทย ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี หลังจาก “แตะช้างดาว” กลายเป็น 1 ใน ซอฟต์ พาวเวอร์ ไอเทมล่าสุดของเมืองไทย ที่ไม่ว่าใครก็ต้องมีถึงจะได้สัมผัสถึงความเป็นไทยแบบครบรส
“แต่ละประเทศก็จะมี ซอฟต์ พาวเวอร์ ในแบบฉบับของตัวเอง สำหรับประเทศไทยรูปแบบของ ซอฟต์ พาวเวอร์ ที่คุ้นเคยของชาวต่างชาติก็จะเป็นเรื่องของเมนูอาหาร สตรีทฟู้ด ผลไม้ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าชาวต่างชาติยังให้ความนิยมในแบรนด์และคุณภาพของสินค้าไทยอีกหลายประเภท ทั้งเครื่องแต่งกาย เช่น กางเกงลายช้างไทย และอีกหนึ่งสิ่งที่มักจะมาคู่กันก็คือ “แตะช้างดาว” ที่แม้แต่ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกก็เคยใส่มาแล้ว” ดร.จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าว
โดยแคมเปญพิเศษรับสงกรานต์ “Experience Thailand with Chang Dao flip-flops” ที่นันยางได้สร้างสรรค์ขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้รองเท้าแตะยางพาราสัญชาติไทย “แตะช้างดาว” ได้เป็นที่รู้จักและเพิ่มกระแสนิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ โดยชูแนวคิด “Wear like locals, wear Chang Dao” ที่ต้องการนำเอกลักษณ์การสวมรองเท้าแตะช้างดาวของคนไทยมาสร้างให้กลุ่มชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงวิถีการสวมรองเท้าในวันสบายๆ สไตล์ไทยแลนด์ ปัจจุบัน “แตะช้างดาว” ได้ถูกส่งออกไปจำหน่ายในหลายประเทศทั้งทวีปเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา ซึ่งปัจจุบันส่วนแบ่งการตลาดที่เกิดจากการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 40-50% ของยอดขายรวมทั้งหมดของ “แตะช้างดาว”
ด้วยจังหวะและโอกาสที่ไทยเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบเต็มที่ หลังจากที่ห่างหายการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ไปหลายปีเพราะโควิด-19 ในปีนี้การดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศจึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ที่จะช่วยฟื้นคืนเศรษฐกิจให้กลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง“กลไกหลักด้านการท่องเที่ยวและส่งออกอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจของประเทศได้เหมือนในอดีต การสร้างความแข็งแกร่งและเสริมโอกาสทางธุรกิจแก่ภาคเอกชน ให้สามารถสร้างสรรค์แคมเปญ ผลิตสินค้าที่มีอัตลักษณ์ เพื่อสร้างให้เกิดเป็นกระแสซอฟท์ พาวเวอร์ ที่ค่อยๆ ซึมจนเกิดเป็นการหลอมละลายศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เกิดเป็นกระแสนิยมในระดับสากล ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้เช่นกัน” ดร.จักรพล กล่าวถึงเป้าหมายเพื่อสร้างสินค้าไทยให้กลายเป็น ซอฟท์ พาวเวอร์ ระดับโลก