"ซิซซา กรุ๊ป" ปลื้มนักลงทุนไทย-ต่างชาติ ตอบรับโปรแรง 1 เดือนยอดขายพุ่งกว่า 60 ล้านบาท มั่นใจภูเก็ตยังเป็นเป้าหมายซื้ออสังหาฯอันดับ 1
ซิซซา กรุ๊ป คาดการณ์ตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง 65 ฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก สังเกตจากภาคท่องเที่ยวที่มีกลุ่มชาวอินเดีย-ตะวันออกกลาง-ยุโรป มาทดแทนตลาดจีนที่หายไป มียอดจองห้องพักช่วงปลายปีสูงขึ้น 50-60% เทียบจากในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้านตลาดที่อยู่อาศัยส่งสัญญาณบวก รับอานิสงส์จากเศรษฐีรัสเซีย หนีสงครามหอบเงินซื้ออสังหาฯไทยต่อเนื่อง ระบุภูเก็ตมาแรงอันดับ 1 เผยหลังจากโปรแรง “ซิซซาเล่นใหญ่ ให้ Yield ทันที” เพียง 1 เดือน ยอดขายพุ่งแล้วกว่า 60 ล้านบาท แนะผู้สนใจลงทุนเพียง 1 ล้านบาท พิเศษ! ให้ Yield ล่วงหน้า 12 เดือน ทันที รับ Yield สูงสุดเฉลี่ย 9%* การันตีซื้อคืน 110% เมื่อสิ้นปีที่ 5 รับสิทธิพิเศษ!! พักฟรี 3 คืนต่อปี* ที่ "วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต" พร้อมสิทธิพิเศษเพียบ ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค.65
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ “Investment Property” (IP) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ที่ผ่านมาว่า ทุกภาคธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่ภาครัฐประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ แต่ยังไม่ฟื้นตัว 100% แต่ตลาดอสังหาฯใน จ.ภูเก็ต ยังมีชาวต่างชาติหันมาซื้อ พูลวิลล่ากันมากขึ้น โดยเฉพาะชาวยุโรป และรัสเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงหันมาลงทุนในประเทศไทยกันมากขึ้น
ส่วนตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง 2565 คาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะตลาดท่องเที่ยว จะเริ่มเห็นชาวอินเดียและตะวันออกกลาง เดินทางเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น เพราะใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่มากและค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงเป็นกลุ่มตลาดใหม่ที่สามารถมาทดแทนกลุ่มอื่นที่หายไปได้ในระดับหนึ่ง เช่น จีน เป็นต้น รวมไปถึงจะมีกลุ่มชาวยุโรปเข้ามามากขึ้นเช่นกัน สังเกตได้จากยอดจองโรงแรมในช่วงปลายปี 2565 ที่พบว่ามีจำนวนสูงมากขึ้น หรืออาจกลับมาประมาณ 50-60% เมื่อเทียบกับช่วงเกิดวิกฤติโควิด-19
“ตลาดบ้านพักอาศัยก็ยังมีสัญญาณบวกอยู่ เพราะชาวต่างชาติยังมองหาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีผลให้กลุ่มที่มีฐานะ ก็จะหอบเงินมาลงทุนซื้ออสังหาฯในประเทศไทยมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่ามีกระจายในทุกเซกเมนต์ ระดับราคาตั้งแต่ 5-50 ล้านบาทขึ้นไป โดยภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ต่างชาติให้ความสนใจลงทุนและซื้อที่อยู่อาศัยเป็นอันดับ 1” นายอรรถนพ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าหลังจากที่ได้จัดโปรโมชั่น “ซิซซาเล่นใหญ่ ให้ Yield ทันที” สำหรับลูกค้าที่ลงทุนในโครงการ “วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต” (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) ได้เพียง 1 เดือน ปรากฏว่าสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 60 ล้านบาท โดยในช่วงระยะเวลา 2 ปี นักลงทุนจะเป็นต่างชาติ สัดส่วน 40% (อันดับ 1 คือ รัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ อิตาลี) ที่เหลือเป็นคนไทยสัดส่วน 60% ซึ่งโปรโมชั่นใหม่นี้ตอบโจทย์สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่มีภาวะเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ค่าเงินบาทอ่อนค่า และอีกมากมาย
โดยลูกค้าที่สนใจสามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 ล้านบาท พิเศษ! ให้ Yield ล่วงหน้า 12 เดือน ทันที รับ Yield สูงสุดเฉลี่ย 9%*การันตีซื้อคืน 110% เมื่อสิ้นปีที่ 5 รับสิทธิพิเศษ!! พักฟรี 3 คืนต่อปี* ที่โรงแรม วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต พร้อมรับส่วนลดที่พัก 30%* และ Member Card ส่วนลดสำหรับบริการอื่นๆ 15%* ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2565 เท่านั้น
นอกจากนี้ยังได้สิทธิพิเศษเป็นเจ้าของร่วมโรงแรม 5 ดาวพรีเมียม ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพภูเก็ต ใกล้หาดในหานเพียง 800 เมตร บริหารงานโดยเครือโรงแรมระดับโลก Wyndham Hotel Group ซึ่งลงทุนแบบมีหลักประกันเป็นอสังหาฯ ก่อสร้างและตกแต่งด้วยมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวพรีเมียม สระว่ายน้ำฟรีฟอร์ม 10 สระรอบโครงการ ฟรีค่าไฟ ค่าน้ำ รายเดือน ฟรีค่าดูแล บำรุงรักษา และซ่อมแซม *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาต้องขอบคุณลูกค้าเป็นอย่างมาก ที่ให้ความไว้วางใจซิซซา กรุ๊ปมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทฯก็พยายามการันตีผลตอบแทนลูกค้าตลอดไป ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าที่ซื้อเพื่อการลงทุนมีสัดส่วนประมาณ 70% ที่แวะมาใช้สิทธิประโยชน์และพอใจกับสิทธิประโยชน์กันมาก ส่วนลูกค้าอีก 30% ที่ยังไม่ได้มาใช้สิทธิประโยชน์ก็อยากให้ได้มาใช้สิทธิกัน และใครที่ยังไม่ลงทุนก็อยากให้ทดลองศึกษาข้อมูลโครงการของซิซซา กรุ๊ป ดู ซึ่งเราพร้อมที่จะดูแลลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ลงทุน” นายอรรถนพ กล่าวในที่สุด
อนึ่ง โครงการ "วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต"ตั้งอยู่บริเวณชายหาดในหาน มีเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ สร้างเป็นอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 12 อาคาร แบ่งเป็นห้อง 2 แบบ ขนาดตั้งแต่ 40 ตารางเมตร ขึ้นไปจนถึง 65 ตารางเมตร จำนวนรวม 353 ยูนิต โดยแบ่ง 4 อาคารบริหารในรูปแบบโรงแรมเต็มรูปแบบ และอีก 8 อาคาร แบ่งขายเพื่อการลงทุน และบริหารการเข้าพักโดย "วินแดม โฮเทล กรุ๊ป" มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท ด้านการก่อสร้างขณะนี้มีความคืบหน้าแล้วกว่า 90%