สิวารมณ์ (“SVR”) โรดโชว์ ปักหมุดผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาฯแนวราบ สู่การเติบโตระดับ High Growth ในอนาคต
บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท (“SVR”)เดินหน้านำเสนอข้อมูลนักลงทุน(โรดโชว์) ประกาศศักดาความพร้อมในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) พร้อมตอกย้ำศักยภาพผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาอสังหาฯแนวราบ สู่การเติบโตระดับ High Growth เตรียมจ่อเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน130 ล้านหุ้น ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หวังรองรับแผนการต่อยอดการพัฒนาโครงการใหม่ๆ
มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ สู่การเป็นบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ผ่านกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาฯที่อยู่อาศัยแนวราบทุกรูปแบบราคา 1 ถึง 7 ล้านบาท มีขนาดที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ เพื่อให้ขนาดโครงการมีความเหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด สามารถจำหน่ายทุกโครงการได้หมดภายใน1 ถึง 3 ปี และสามารถพัฒนาโครงการในพื้นที่ที่หลากหลายอื่นที่มีศักยภาพได้ในคราวเดียวกัน
นายอรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “SVR” เปิดเผยว่า “SVR” มีวิสัยทัศน์ การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม สินค้า และบริการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิต โดยส่งมอบสังคมคุณภาพพร้อมความสุข อย่างยั่งยืน สิวารมณ์ “SVR” มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็นบริษัทฯพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ผ่านกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อที่อยู่อาศัยแนวราบทุกรูปแบบราคา 1 ถึง 7 ล้านบาท โดยมีขนาดที่ดินต่อโครงการไม่เกิน 50 ไร่ ทำให้สามารถกระจายการพัฒนาโครงการได้ในหลากหลายพื้นที่ ซึ่งมีความเหมาะสมกับความต้องการและไม่เกิดอุปทานส่วนเกิน ส่งผลให้โครงการของเราสามารถจำหน่ายได้หมดภายใน1 ถึง 3 ปี ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค
และด้วยความมุ่งมั่นในการต่อยอดธุรกิจสู่ความยั่งยืนในอนาคต ส่งผลให้บริษัทฯมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อนำเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุน เพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการในอนาคต เนื่องจากมองว่าความต้องการของผู้บริโภคในโครงการบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีดีมานด์เพิ่มขึ้น โดยในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตในอัตรา 4.5% จากปี 2564 ทำให้ตลาดมีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ สิวารมณ์ “SVR” มีการพัฒนาโครงการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากในช่วงปี 2562 มีการพัฒนาโครงการจำนวน 2 โครงการ เพิ่มขึ้นเป็น 9 โครงการ ในปี 2565 โดยในทุก ๆทำเล สิวารมณ์ “SVR” ได้มีการเลือกสรรทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพโดยจะเน้นพัฒนาโครงการพื้นที่ใกล้แหล่งชุมชน หรือแหล่งที่ทำงาน แหล่งสาธารณูปโภคทางด้านคมนาคม (ถนนสายหลัก ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สถานีรถไฟฟ้ารถไฟฟ้า) ทำให้ทุกโครงการของ สิวารมณ์ “SVR” อาทิ
โครงการ SIVAROM CITY ซึ่งเป็นบ้านระดับราคาเริ่มต้น 1.7-3.0 ลบ./ยูนิต, SIVAROM VILLAGE ราคาเริ่มต้น 2.5-5.0 ลบ./ยูนิต, SIVAROM NATURE PLUS ราคาเริ่มต้น 2.3-5.9 ลบ./ยูนิต, SIVAROM PARK เริ่มต้น 3.5-4.3 ลบ./ยูนิต และ SIVAROM GRAND ราคาเริ่มต้น 4.6-6.2 ลบ./ยูนิต สามารถตอบโจทย์ทุก Lifestyle ทุก Generation ได้อย่างลงตัว โดยทุกโครงการใช้เวลาจำหน่ายต่อโครงการเฉลี่ย 1 ถึง 3 ปี ทั้งนี้นอกจากที่บริษัทฯจะนำไปพัฒนาโครงการในอนาคตแล้ว บริษัทฯ ยังนำไปชำระเงินกู้ระยะสั้น รวมถึงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ด้าน นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท “SVR” กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกลยุทธ์ในพัฒนาโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านจัดหาที่ดิน ในทำเลที่มีศักยภาพ รวมถึงการออกแบบ ทำให้สามารถตอบโจทย์ต้องการของตลาดและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญสามารถปิดโครงการได้ภายในระยะเวลาไม่นาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 31 กันยายน 2565 มีรายได้รวม 532 ล้านบาท กำไรสุทธิ 36 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 มีรายได้จากการขาย 576 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท, ปี 2563 มีรายได้จากการขาย 557 ล้านบาท กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท และปี 2562 มีรายได้รวม 243 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับผลการดำเนินงานมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถาการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถสะท้อนให้เห็นถึงรายได้และกำไรของสิวารมณ์ “SVR” ที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจากอัตราการเติบโตดังกล่าว ประกอบกับแผนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบในโครงการใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับกับแผนขยายโครงการภายใต้การมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาการอยู่อาศัย และตอบโจทย์การยกระดับการใช้ชีวิตที่ลงตัว ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล โดยจะมุ่งเน้นโซนพื้นที่ที่มีอัตราเติบโตของประชากรสูง และมีการขยายโครงข่ายคมนาคม และพื้นที่เขตนิคมอุตสาหกรรมส่วนต่อขยาย จากปัจจัยดังกล่าวยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตผลการดำเนินงานของ สิวารมณ์ “SVR” มีโอกาสก้าวสู่ระดับ High Growth อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ขณะที่ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติม ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินว่า บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) 1.00 บาท โดย สิวารมณ์ “SVR” เป็นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ เป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์โครงการที่อยู่อาศัย เช่น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตสูง
และด้วยวิสัยทัศน์ ภายใต้การขับเคลื่อนด้วยผู้บริหารกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญเรื่อง ทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพ (SMART Location) , การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย (SMART Function) , ความคุ้มค่าในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย (SMART Value) และ ความทันสมัยและความสะดวกสบาย (SMART Home) จึงทำให้โครงการของสิวารมณ์ “SVR” สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างลงตัว
ส่งผลให้วันนี้ สิวารมณ์ “SVR” ถือเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใต้ความแตกต่างด้านการให้บริการและพัฒนาแบบบ้านให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นด้วยศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้เป็นเครื่องตอกย้ำที่แสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจ ในการเข้ามาลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ ภายใต้ชื่อ สิวารมณ์ “SVR”