November 23, 2024

เทรนด์ใหม่เพื่อบ้านมาแรงรับปี 2023

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

เทรนด์ใหม่เพื่อบ้านมาแรงรับปี 2023

โดย อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ (Antoine Besseyre des Horts) ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย

อันทวน เบแซร์ เดส์ ออรส์ ลีดเดอร์ (VP) ประจำลิกซิล โกลบอล ดีไซน์ ภูมิภาคเอเชีย มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักออกแบบและบุคคลชั้นนำในวงการมากมาย ทำให้เขาสามารถแบ่งปันเทรนด์ใหม่มาแรงของปี 2023 โดยเทรนด์ที่มาแรงนี้ได้เริ่มมีอิทธิพลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน

การทำงานจากที่บ้านหรือการ Work From Home ยังคงเป็นเรื่องปกติสำหรับหลาย ๆ คนอยู่ ผู้คนจึงมองหาโซลูชันที่สะดวกสบายมากขึ้นแต่ยังคงความมีสไตล์เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของบ้าน อย่างไรก็ตาม จากความกังวลในเรื่องภาวะโลกร้อนของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และราคาของวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้น เทรนด์ใหม่ ๆ ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามเช่นกัน

เราจะเห็นความต้องการของผู้บริโภคในด้านโซลูชันเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับแก้ปัญหาในบ้านที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ โซลูชันในการลดปริมาณการใช้น้ำ ลดการปล่อยคาร์บอน รวมไปถึงโซลูชันในการลดภาระค่าสาธารณูปโภค

และเมื่อแนวโน้มเป็นเช่นนี้แล้ว เทรนด์ในปี 2023 จะเป็นไปอย่างไร มาถึงตรงนี้ เราสามารถบอกได้ว่า ความยั่งยืน ความเปิดกว้าง และนวัตกรรม คือ 3 สิ่งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งเราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

  1. ความยั่งยืน การอนุรักษ์น้ำ และการลดใช้พลาสติก

ความยั่งยืนกลายมาเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ สำหรับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ตระหนักถึงความจำเป็นในการนำโซลูชันที่มีความยั่งยืนมาปรับใช้ ในปี 2023 นี้ ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านจะถูกออกแบบเพื่อให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นโดยไม่ลดทอนประสบการณ์ที่จะได้รับในแต่ละวัน เราจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ค่อย ๆ มุ่งเข้าสู่ความยั่งยืนและเกิดการหมุนเวียน  รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น โดยปรับใช้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการตกแต่งภายใน ผ่านการใช้วัสดุรีไซเคิลในส่วนที่สามารถใช้ได้ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมคำนึงถึงการนำไปรีไซเคิลในอนาคต

นอกจากนี้ เรายังจะได้เห็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยลดการใช้พลาสติกและน้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างในประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวก็พบว่ามีการใช้พลาสติกและน้ำภายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น โดยหากพิจารณาจากทั่วประเทศแล้ว แต่ละคนจะใช้น้ำปริมาณ 158 ลิตรต่อวัน[1]และใช้ขวด PET 467 ล้านขวดในแต่ละปี[2] ส่วนโถสุขภัณฑ์ ฝักบัว และก๊อกน้ำที่ใช้ทรัพยากรน้ำน้อยลงและลดการใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบจะค่อย ๆ เข้ามามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น เนื่องจากเป็นแหล่งการใช้น้ำหลัก ๆ ภายในบ้าน เช่นเดียวกับ GROHE Blue ที่มาปฏิวัติระบบน้ำ เพราะสามารถกรอง ทำความเย็น และเติมคาร์บอนลงในน้ำได้โดยตรงจากก๊อกน้ำในครัว มีส่วนช่วยในการลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกได้มากถึง 800 ขวด[3] ลดการใช้น้ำ และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการสร้างโซลูชันที่มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นของลิกซิล จะนำข้อบกพร่องในการออกแบบผลิตภัณฑ์มาร่วม และหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพของการอนุรักษ์น้ำโดยไม่ลดทอนประสบการณ์และการเข้าถึงโซลูชันของผู้ใช้

 

  1. การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มประชากรสูงวัย

แม้ว่า Inclusivity หรือการให้ความสำคัญกับทุกคนจะเป็นคำที่ใช้กันมานานหลายต่อหลายปี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงานที่เปิดกว้าง (Inclusive Workplace) การศึกษาสำหรับทุกคน (Inclusive Education) การใช้ภาษากลางเพื่อความเท่าเทียม (Inclusive Language) ฯลฯ แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องของการออกแบบพื้นที่ทางกายภาพที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเท่าใดนัก และประเด็นนี้มักไม่ค่อยมีการนำมาพิจารณาเมื่อพูดถึงเรื่องของความหลากหลายและการเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ เราเริ่มที่จะเห็นแนวโน้มในการผสานรวมการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนเข้ากับสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่และสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ ผลิตภัณฑ์ที่มาช่วยรับประกันว่าสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นจะเอื้อประโยชน์และพร้อมรองรับทุกคนโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยใด ๆ จะกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น

หากพูดให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว เราจะเห็นถึงการเปิดกว้างเมื่อเป็นเรื่องของประชากรสูงวัย เมื่อผู้คนมีอายุมากขึ้น พวกเขาจะเดินภายในบ้านที่มีโครงสร้างเดิม ๆ ได้ลำบากขึ้น และนักออกแบบก็จะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ[4] ชี้ให้เห็นว่า ประชากรสูงวัยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2050 ยกตัวอย่างเช่น อ่างอาบน้ำนับเป็นพื้นที่ที่นักออกแบบจะรังสรรค์ประโยชน์ได้อย่างมากสำหรับประชากรสูงวัย ขอบของอ่างอาบน้ำที่มีขนาดกว้างขึ้นจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก ในขณะที่อ่างแบบวอล์กอินช่วยให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นและป้องกันการลื่นล้ม

แนวโน้มของการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคนจะครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงจากผลิตภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงฐานะไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบง่ายและใช้งานได้จริงมากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังคงความสวยงาม ความมีสไตล์ และมาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายและตรงไปตรงมามากกว่าเดิม เพื่อรองรับผู้ใช้ที่มีความหลากหลาย นักออกแบบและสถาปนิกควรคำนึงถึงเทรนด์นี้เอาไว้เสมอหากพวกเขาต้องการที่จะเป็นผู้นำในเรื่องของการออกแบบ

 

  1. เทคโนโลยีช่วยให้เกิดความเรียบง่ายและการใช้งานได้จริง

เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์ในปี 2023 ทั้งเรื่องของความยั่งยืน การออกแบบที่ให้ความสำคัญกับทุกคน และการทำให้บ้านมีสไตล์และมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในระหว่างนี้เรายังคงต้องทำงานจากที่บ้านกันต่อไป อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ เราจะไม่เห็นนวัตกรรมชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่จะมาช่วย “สอดรับทุกความต้องการ” หรือ one-size-fits-all ในการออกแบบภายในใด ๆ การผสานรวมเทคโนโลยีของนักออกแบบจะเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมโดยรอบมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตัวอย่างเช่น ก๊อกน้ำแบบไร้สัมผัสและระบบชำระล้างที่ช่วยลดการสัมผัสของผู้ใช้จะยังคงมีการนำมาใช้ในพื้นที่สาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านสุขอนามัยและลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงภายในบ้าน เรื่องความปลอดภัยดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อกังวลเท่าใดนัก การผสานรวมเทคโนโลยีเข้ากับบ้านจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบายมากกว่า เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับระบบฝักบัว Smart Control ของ GROHE ซึ่งใช้นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งฝักบัวได้ตามต้องการ และควบคุมอุณหภูมิและปริมาณการใช้น้ำได้อย่างง่ายดาย

โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำเทรนด์ การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นักออกแบบ ช่างก่อสร้าง และสถาปนิกล้วนมีอิทธิพลที่จะผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในการออกแบบที่ครอบคลุม การอนุรักษ์น้ำ และความยั่งยืน แต่ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ที่มองการออกแบบจากมุมของความเข้าอกเข้าใจ ความถี่ถ้วน และมีวิจารณญาณ จะมีความโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะตัวเขาเองนั้นกำลังเปลี่ยนชีวิตของผู้คนจำนวนมากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

 

[1] https://www.straitstimes.com/singapore/politics/budget-debate-daily-consumption-of-water-rose-again-in-2021-to-reach-158-litres-per-capita#:~:text =SINGAPORE%20%2D%20Household%20water%20consumption%20is,จาก%20154%20litres%20in% 202020
[2] https://sec.org.sg/pdf/reports/new-plastic-economy.pdf
[3] https://www.grohe-x.com/th/inspiration/article/bye-bye-plastic
[4] https://www.weforum.org/agenda/2021/10/is-asia-pacific-ready-to-be-the-world-s-most-rapidly-ageing-region/

Page Visitor

012552277
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
5973
19290
113570
360068
432245
12552277
Your IP: 18.188.96.17
2024-11-23 07:39
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.