จับตาภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวทำเลทอง 2566 แม่เหล็กดึงการลงทุนตลาดอสังหาฯ ลักชูรี
ชูศักยภาพเหนือชั้นเกาะสวรรค์แห่งอันดามัน เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน-เมกะโปรเจ็กต์ พร้อมสร้างมูลค่าให้นักลงทุนอสังหาฯ และดีเวลอปเปอร์ไทย-ต่างชาติ
ในช่วงที่ผ่านมา “ภูเก็ต” เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของไทย ได้โชว์ศักยภาพในการเติบโตด้านการท่องเที่ยวตลอดปี 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมาเยือนเกาะภูเก็ตมากถึง 5,628,483 ราย (เป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น 3,320,217 ราย) โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติได้สร้างรายได้ให้แก่ภูเก็ตถึง 176,675.17 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าจะส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยที่จะเริ่มกลับมาขยับฟื้นตัว ในปี 2566
คุณเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ อาณาจักรที่อยู่อาศัยในสไตล์รีสอร์ตหรูเหนือระดับ บนพื้นที่กว่า 454 ไร่ ตั้งแต่ทิวเขาทอดยาวจรดชายหาดกมลา ที่มีทัศนียภาพอันงดงามยามอาทิตย์อัสดงของภูเก็ต กล่าวว่า “ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันเต็มเปี่ยมของภูเก็ตในทุก ๆ มิติ ทั้งสำหรับภาคเอกชนและภาครัฐ ทั้งยังเป็นการยืนยันว่าภูเก็ตเป็นจุดหมายที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐาน เมกะโปรเจ็กต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่ช่วยดึงดูดเม็ดเงินทุน หลังจากที่นักลงทุนเห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเมืองหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย” นายเศรษฐพล เห็นว่า ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นที่น่าจับตามอง และหลังจากนี้จะมีการทยอยเปิดตัวโปรเจ็กต์ลักชูรีอีกหลายโครงการด้วยกัน
โปรเจ็กต์โครงสร้างพื้นฐานหนุนการเติบโตของภูเก็ต
การโครงการขยายสนามบินนานาชาติภูเก็ตเฟส 3 ถือเป็นการเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของภูเก็ต คาดการณ์ว่าเทอร์มินัล 3 ที่จะเปิดขึ้นใหม่ จะรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคนต่อปี ช่วยส่งเสริมชื่อเสียงระดับโลกของเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ แผนการสร้างรถไฟรางเบา LRT ที่เริ่มจากสถานีรถไฟท่านุ่น จ.พังงา จะช่วยทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสนามบินภูเก็ตเข้าตัวเมือง ไปจนถึงสถานีห้าแยกฉลอง และท่าเรืออ่าวฉลอง เป็นไปอย่างสะดวกสบาย อีกสองเมกะโปรเจ็กต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง คือ Carnival Magic Phuket และ Andaman International Medical Hub (ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน) ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญก็คือโครงการ Phuket Smart City ที่ได้แรงสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเต็มที่ ภายใต้โครงการนำร่องของรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้ภูเก็ตเป็นเมืองอัจฉริยะแห่งแรกของไทย ถอดโมเดลจากเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยในเฟสถัดไปคือการเร่งให้ภูเก็ตเป็นเมืองแห่ง IoT (Internet of Things) ใช้เทคโนโลยีหลากหลาย อาทิ ระบบเน็ตเวิร์กเพื่อควบคุมการเปิด-ปิดไฟในพื้นที่สาธารณะ การเชื่อมต่อข้อมูล ตลอดจนการมอบซิมการ์ดให้แก่นักท่องเที่ยว โครงการพัฒนามากมายเหล่านี้ จะช่วยทำให้ภูเก็ตเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดการลงทุนได้ในอนาคต
ดีมานด์ที่อยู่และอสังหาฯ ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ในภูเก็ตพุ่งสูงขึ้น
ธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตกลับมาคึกคักอีกครั้งจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกของปี 2565 นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออก โดย 39% มาจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ในขณะที่ 30% มาจากสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และรัสเซีย และ 11% มาจากประเทศอินเดีย โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นักท่องเที่ยวในภูเก็ตใช้จ่ายเงินราว 6,400 – 7,200 บาทต่อคนต่อวัน โดยเฉลี่ยใช้เวลาอยู่บนเกาะภูเก็ต 4-5 วัน ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทย ซึ่งมีตัวเลขสูงขึ้น 3-4% ต่อปีนั้น ก็มักเลือกที่จะทำงานแบบ Remote ที่ภูเก็ต ด้วยเหตุนี้ ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ที่มีฟังก์ชันครบครันในภูเก็ตจึงเพิ่มสูงขึ้น
เกาะงามล้ำค่าเปี่ยมศักยภาพการลงทุน
หาดทรายอันงดงามและโครงสร้างพื้นฐานที่เทียบเท่าเมืองระดับโลกช่วยสร้างชื่อเสียงให้ภูเก็ตได้เป็นอย่างดี สำหรับหาดกมลา เป็นชายหาดที่กำลังมาแรง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของภูเก็ต เป็นพื้นที่อันเปี่ยมด้วยสเน่ห์และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนอสังหาฯ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาที่ดินในบริเวณนี้อยู่ที่ 55 ล้านบาทต่อไร่ เพิ่มขึ้นถึง 4.9% จากปีที่ผ่านมา หาดกมลา ยังเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งรวมร้านอาหารบรรยากาศดีและไนต์ไลฟ์สำหรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับอีกด้วย
ในส่วนของหาดอื่นๆ อย่าง ป่าตอง กะรน กะตะ และราไวย์ ที่มาพร้อมโครงสร้างพื้นฐานที่มอบประสบการณ์เหนือระดับและบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็ยังคงเป็นตัวเลือกของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“สำหรับหาดกมลา กำลังพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้สอดรับกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น แต่พื้นที่แห่งนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ความสงบเป็นส่วนตัว ที่ทำให้เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่มีสภาพคล่องสูง บรรยากาศสบาย ๆ ที่ไม่พลุกพล่านก็เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสหาดที่มีความเป็นส่วนตัวและวิลล่าเหนือระดับที่มาพร้อมทิวทัศน์ทะเลอันงดงาม โปรเจ็กต์ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้จะมุ่งเน้นวิลล่าหรูริมหาดและคอนโดวิวทะเลสุดลักชูรี” คุณเศรษฐพล อธิบาย
ทำไม “ภูเก็ต” จึงเนื้อหอมสำหรับนักลงทุน
ความต้องการสำหรับคอนโด, Branded Residence และบ้านพักตากอากาศในภูเก็ต จากนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยตลาดในไทยต้องการบ้านพักหรือวิลล่า ในขณะที่ต่างชาติเริ่มหันมามองโครงการคอนโดในภูเก็ต และปัจจัยที่น่าลงทุนสำหรับอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้คือราคาปล่อยเช่าที่ได้กำไรดี นักลงทุนต่างชาติต้องการลงทุนกับโครงการที่สามารถดำเนินการในรูปแบบโรงแรมและรับค่าเช่าต่อเนื่องทุกปี ในขณะที่ยังสามารถเป็นเจ้าของที่พักไว้เป็นบ้านพักในวันหยุดได้ นอกจากนี้ ยังเห็นดีมานด์ที่สูงขึ้นสำหรับบ้านหลังที่สองในภูเก็ตสำหรับชาวไทยรายได้สูงจากกรุงเทพฯ และต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย โดยสถานการณ์โควิด-19 มาเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ ผู้คนจำนวนไม่น้อยเล็งเห็นความสำคัญของการหาบ้านหลังที่สอง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนทั่วโลกที่กำลังมองหาเมืองพักผ่อนในยามเกษียณอายุก็มองภูเก็ตเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตในบั้นปลายเช่นเดียวกัน
ราคาที่ดินในภูเก็ตสูงขึ้นต่อเนื่องในทุก ๆ ปี พร้อมสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีเยี่ยม ด้วย Capital Gain ถึง 5.5 – 10% และ Rental Yield (อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า) ถึง 5 - 8% วิลล่าและคอนโดมิเนียมในพื้นที่ทางตอนเหนือและตะวันตก เช่น หาดกมลา หาดสุรินทร์ หาดบางเทา หาดลากูน่า หาดเชิงทะเล และหาดลายัน ยังคงขายได้ในราคาดี อย่างไรก็ตาม การหาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เหล่านี้เพื่อสร้างโครงการต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องท้าทายท่ามกลางดีมานด์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุน ในช่วงเวลาที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิดและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยังไม่เอื้อเท่าไรนัก
โครงการมอนท์เอซัวร์ พร้อมหนุนการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต
มอนท์เอซัวร์ เมกะโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ที่สุดริมหาดกมลา พร้อมนำเสนอที่อยู่อาศัยไว้สำหรับการเป็นบ้านหลังแรก บ้านหลังที่สองสำหรับพักผ่อน หรือการลงทุน รายล้อมด้วยคอมมิวนิตี้หรูหราที่ตกแต่งด้วยสวนสวยงามตลอดทั้งโครงการ พร้อมมอบการพักผ่อนเหนือระดับติดหาดกมลาของภูเก็ต
คุณเศรษฐพล บุตรโท กรรมการบริหาร โครงการมอนท์เอซัวร์ กล่าวว่า “โครงการมอนท์เอซัวร์ ถือเป็นโครงการสำคัญเปี่ยมศักยภาพที่จะเข้ามาช่วยสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาฯ ของภูเก็ต อาณาจักรมอนท์เอซัวร์ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างพาร์ทเนอร์มากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มาร่วมบริหารจัดการหลากหลายโปรเจ็กต์ในอาณาจักรแห่งนี้ โดยกว่า 70% ของพื้นที่โครงการได้เริ่มแผนการพัฒนาแล้ว อาทิเช่น Twinpalm Residences MontAzure, MGallery Residences MontAzure, Intercontinental Phuket Resort Hotel, Café del Mar Beach Club, 333 at the Beach และโครงการอื่นๆอีกมากมาย ในปี 2566 มอนท์เอซัวร์ จะเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ เพื่อร่วมพัฒนาพื้นที่ ให้พร้อมเติมเต็มการเป็นที่สุดแห่งโครงการมิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ไฮเอนด์”
ปัจจุบัน ภูเก็ตได้กลายเป็นสวรรค์แห่งการท่องเที่ยวและการลงทุนอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยผลตอบแทนและศักยภาพของทำเลทองที่หาที่อื่นไม่ได้ นักลงทุนและผู้มองหาบ้านหรูจึงต้องจับตามองตลาดในภูเก็ต โครงการอย่างมอนท์เอซัวร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมกะโปรเจ็กต์สเกลใหญ่ ที่กำลังมีความคืบหน้าของโครงการอย่างต่อเนื่อง จะเข้ามาสร้างความคึกคักและสีสันให้กับตลาดอสังหาฯ ของภูเก็ต พร้อมดึงดูดโครงการใหญ่อีกมากมายให้แก่ “ภูเก็ต” เพชรเม็ดงามแห่งอันดามัน