Destination Group ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท ซื้อเมาน์เท็น บีช รีสอร์ต พระตำหนัก พัทยา รีแบรนด์ใหม่ อัพเกรดระดับ 4.5 ดาว
Destination Group ประกาศเข้าซื้อกิจการเมาน์เท็น บีช รีสอร์ต ใจกลางย่านพระตำหนัก เมืองพัทยา ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท ปรับปรุงและรีแบรนด์ใหม่ พร้อมยกระดับเป็น 4.5 ดาว ด้วยห้องพักกว่า 354 ห้อง จัดเต็มสิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิง และสันทนาการ บีชคลับ - ไนท์คลับความสนุกไร้ขีดจำกัด รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ กำหนดเปิดให้บริการไตรมาส 2/67
มร.แกรี่ เมอร์เรย์ (Mr.Gary Murray) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง เดสติเนชั่น กรุ๊ป เปิดเผยว่าเดสติเนชั่น กรุ๊ป ประกาศเข้าซื้อกิจการเมาน์เท็น บีช รีสอร์ต ตั้งอยู่ใจกลางย่านพระตำหนัก เมืองพัทยา ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารชั้นนำ ห่างจากชายหาดพระตำหนักเพียง 200 เมตร พร้อมวางแผนปรับปรุงรีสอร์ตครั้งใหญ่ รวมถึงรีแบรนด์ใหม่ในฐานะผู้ให้บริการระหว่างประเทศให้เป็นระดับ 4.5 ดาว
โดยหลังจากการปรับปรุงครั้งนี้ รีสอร์ตจะมีจำนวนห้องพักมากกว่า 354 ห้อง (จากเดิม 322 ห้อง) พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งความบันเทิง และสันทนาการ ได้แก่ บีชคลับรองรับได้ถึง 150 ที่นั่ง ไนท์คลับที่มีความสนุกไร้ขีดจำกัด คาเฟ่ที่นั่งได้ตลอดวันสามารถรองรับได้ถึง 250 ที่นั่ง สปาเพื่อสุขภาพ รวมถึง SIAM ADVENTURE CLUB กิจกรรมเชิงทัศนศึกษาสำหรับเด็กและวัยรุ่น และห้องประชุมขนาด 800 ตารางเมตร ถือเป็นรีสอร์ตที่ให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีกำหนดเปิดให้บริการไตรมาส 2 ปี 2567
“ชายหาดพระตำหนักถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวที่ดีที่สุด เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเมืองพัทยาเป็นแหล่งรวมชายหาดยอดนิยมทางฝั่งอ่าวไทย มีชื่อเสียงด้าน อาหารทันสมัย คาเฟ่ริมหาดและสถานบันเทิงยามราตรี อีกทั้งตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 1 ชั่วโมง และไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ” มร.แกรี่ กล่าว
อนึ่ง เดสติเนชั่น กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้น ในปี 2539 ดำเนินธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และกลุ่มโฮสเทลที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ในส่วนของธุรกิจโรงแรมดำเนินงานผ่าน Destination Resorts ปัจจุบันรีสอร์ตในเครือเดสติเนชั่นมีห้องพักมากกว่า 2,500 ห้องที่ภูเก็ต หัวหิน สมุย เขาหลัก และพัทยา ในขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร ดำเนินงานผ่าน Destination Eats มีร้านอาหารมากกว่า 30 แห่ง ทั้งฮาร์ดร๊อคคาเฟ่ ร้านอาหารฮูเตอร์ส สกูซซี่พิซซ่า บิ๊กบอย ไอศกรีมว้าวคาว ร้านกาแฟเอร์เบิร์นกรันช์ บูมบูมเบอร์เกอร์ กอนชอยชิคเก้น ทาโก้ดีไลท์ หนุมานไทย พาวเวอร์อีทส์ และล่าสุด Virtual Kitchens ที่ปราศจากหน้าร้าน
ในส่วนของธุรกิจโฮสเทล ดำเนินงานผ่าน Collective Hospitality มีโฮสเทลมากกว่า 50 แห่ง มีจำนวนเตียงมากกว่า 6,000 เตียง บริหารงานภายใต้แบรนด์ Slumber Party, Bodega และ Socialtel ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และกัมพูชา สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่