PROUD เทิร์นอะราวด์ตามนัด Q3/65 กวาดรายได้ 883 ล้านบาท กำไรสุทธิ 119 ล้านบาท
PROUD โชว์ฟอร์มสวย ผลประกอบการไตรมาส 3/65 กวาดรายได้ 883 ล้านบาท กำไรสุทธิ 119 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ 702% ถือเป็นสถิติสูงสุด (Record High) คาดแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/65 โตเด่น ทยอยรับรู้รายได้ โครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน ต่อเนื่อง เดินหน้าเปิดโครงการใหม่แนวราบ ระดับลักชัวรี่ วี อารีย์ (VI ARI) และโครงการแนวสูง ในซอยคอนแวนต์ รับดีมานด์กำลังซื้อสูง
นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมีรายได้รวมสูงสุดถึง 883 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงถึง 119 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 992 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ไม่มีรายได้ ซึ่งถือเป็นการเทิร์นอะราวน์อย่างแท้จริง โดยเป็นผลมาจากการขายและทยอยส่งมอบโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหินอย่างต่อเนื่อง
“สำหรับทิศทางธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2565 แนวโน้มดียิ่งขึ้นกว่านี้อีก ปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้รายได้การโอนกรรมสิทธิ์โครงการ อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหินเข้ามามากขึ้น และคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการสำเร็จได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าตามแผนงาน เตรียมเปิดโครงการใหม่ โครงการแนวราบระดับลักชัวรี่ บนทำเล CBD โครงการวี อารีย์ (VI ARI) บ้านเดี่ยวใจกลางอารีย์ ย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจกรุงเทพฯ มูลค่ารวม 507 ล้านบาท โดยมีราคาขายต่อหลังประมาณ 80 ล้านบาท และอีกหนึ่งโครงการแนวสูงในซอยคอนแวนต์ กับคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ ตอกย้ำจุดแข็งเรื่องทำเลใจกลางเมือง พร้อมออกแบบบริการดูแลสุขภาพของลูกบ้านแบบครบวงจร ร่วมกับโรงพยาบาล BNH และแอปพลิเคชัน Bedee by BDMS มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท คาดจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/2565 และไตรมาส 1/2566 ตามลำดับ
อีกทั้งยังพบกว่าโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน มีสัดส่วนลูกค้ากว่า 70% ที่โอนกรรมสิทธิ์โดยเงินสด (ไม่ใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัย) สะท้อนภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ยังส่งสัญญาณบวก โดยเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยเรื่องภาวะเงินเฟ้อ และการยกเลิกต่ออายุการผ่อนคลายเกณฑ์กำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) เนื่องจากมีศักยภาพและความพร้อมทางการเงิน ส่งผลให้เกิดการเร่งตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย และโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 ช่วยผลักดันยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปัจจุบันโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส มียอดขายแล้ว 93%” นายภูมิพัฒน์ กล่าว