เบนซ์อมรรัชดากับความสำเร็จกว่า 4 ทศวรรษ
คุณวรรณภา ตั้งบรรยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์อมรรัชดา จำกัดให้สัมภาษณ์พิเศษนิตยสาร บิส โฟกัส ในโอกาสดำเนินธุรกิจมากว่า 40 ปี แผนการลงทุน แผนการตลาดและทิศทางการดำเนินงาน เป้าหมายการเติบโตในปีนี้ รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ดังนี้
นิตยสารบิส โฟกัส : ความสำเร็จของเบนซ์อมรรัชดา
คุณวรรณภา : บริษัทเริ่มก่อตั้งโดยคุณอมร ตั้งบรรยงค์ ปัจจุบันดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ซึ่งเริ่มดำเนินธุรกิจโดยการขายรถมือสอง ปัจจุบันสำนักงานตั้งอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก โดยที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเจริญเติบโตต่อเนื่องและมีสาขาอยู่ที่ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งจะเน้นจำหน่ายรถเบนซ์มือสอง มีการบริการซ่อมหลังการขายตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ
บริษัทมีธุรกิจในเครืออยู่หลายบริษัท เช่น บริษัท Star Serv เป็นศูนย์ซ่อมรถเบนซ์ราคาประหยัดที่รองรับลูกค้าที่ได้ซื้อรถจากบริษัทเบนซ์อมรรัชดา, บริษัท อมรวิชั่น (บางกอก) จำกัด ดำเนินการเพื่อผลิตรายการโทรทัศน์ เป็นต้น ด้านจุดเด่นของเบนซ์อมรรัชดาจะเป็นในเรื่องการบริการหลังการขาย รับประกันซ่อมค่าแรงฟรีตลอดระยะอายุการใช้งาน และมั่นใจในการรับประกันอะไหล่ทุกชิ้น 1 เดือนเต็ม และรับประกันอะไหล่สำคัญ 1 ปี ซึ่งเป็นคุณภาพมาตรฐานที่บริษัทยึดมั่นดำเนินการมาโดยตลอด
นิตยสารบิส โฟกัส : วางแผนการลงทุนในปีนี้และปีหน้าไว้อย่างไร
คุณวรรณภา : แผนการลงทุนต่อเนื่องจากปี 2555 -2556 ซึ่งเป็นธุรกิจของเครืออมร กรุ๊ป ล่าสุดได้มีการลงทุนก่อสร้างอาคารสำหรับในเครือซึ่งมีชื่อว่าบริษัท อมรเพรสทีจ จำกัด โดยเริ่มดำเนินก่อสร้างเมื่อปลายปี 2555 เป็นอาคารสูง 6 ชั้น โดยเป็นศูนย์ดีลเลอร์รถใหม่ BMW มีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่ห่างจากเบนซ์อมรรัชดาประมาณ 800 เมตรก่อนถึงปั้มปิโตรนาส ใช้งบลงทุนในการก่อสร้างประมาณ 150 ล้านบาท โดยได้มีการส่งมอบอาคารประมาณเดือนสิงหาคม 2556 และเปิดดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาและได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าดี
โดยนับเป็นครั้งแรกในการจำหน่ายรถใหม่เพราะตลอดระยะเวลที่ผ่านมาาบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถมือสองมาโดยตลอด ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ของบริษัทที่จะพัฒนาและปรับตัวให้เข้ากับตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน โดยต้องบริหารงานภายใต้นโยบายของเยอรมนีที่เป็นออโตไลน์ดีลเลอร์ของ BMW ซึ่งทำให้ได้เรียนรู้ในระดับอินเตอร์ว่าดำเนินงานอย่างไรและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับบริษัทที่จะสามารถนำมาพัฒนาในธุรกิจได้
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเปิดศูนย์รถยนต์ BMW เนื่องจากมองว่าตลาดรถมือสองในประเทศไทยแนวโน้มค่อนข้างเติบโตได้ยากขึ้น ข้อจำกัดในการทำธุรกิจรถมือสองมีมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่บริษัทจะต้องหันมาทำธุรกิจด้านรถใหม่ ซึ่งมองว่า BMW เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ในหลายประเทศมียอดขายชนะรถยนต์เมอร์ซิเดสเบนซ์ และคาดว่าในอนาคตภาพรวมน่าจะเติบโตได้ดี ประกอบกับกลยุทธ์ของบริษัทที่มีชื่อเสียงดีมาโดยตลาดนั้นคือการบริการหลังการขายที่จะส่งผลให้การทำตลาดในเรื่องรถใหม่เติบโตได้ดีในอนาคต
ส่วนแผนการลงทุนของเบนซ์อมรรัชดาในปี 2557 ยังไม่มีแผนเปิดธุรกิจใหม่ แต่จะมีในเรื่องการตั้งงบลงทุนในด้านการทำโปรโมชั่นและประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังต้องดูสถานการณ์ในการปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับเหตุการณ์และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันอีกด้วย โดยแนวโน้มในเรื่องราคาคาดว่าน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถ เนื่องจากผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าได้ในปัจจุบันอย่างน้อยต้องมองแล้วว่าจะต้องคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายไปซึ่งค่ายรถก็จะเหนื่อย ดังนั้นจึงต้องมีการทำโปรโมชั่นตลอดปี
นิตยสารบิส โฟกัส : วางแผนการตลาดไว้อย่างไร
คุณวรรณภา : งบประมาณในด้านการตลาดจะตั้งไว้ที่ 10% จากยอดขายซึ่งเป็นกำไรจากการขาย โดยในแต่ละปีก็จะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 5-10 ล้านบาท/ปี แต่ในปีนี้ยังไม่ได้ตั้งไว้เนื่องจากได้รับผลกระทบดังที่ได้กล่าวมาเบื้องต้น ด้านการวางแผนการตลาดจะเน้นการทำโปรโมชั่นตลอดปีเพื่อกระตุ้นการซื้อของลูกค้าให้มากขึ้น
นิตยสารบิส โฟกัส : กลุ่มลูกค้าของบริษัทเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน
คุณวรรณภา : สำหรับกลุ่มลุกค้าของเบนซ์อมรจะมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้วเนื่องจากเปิดดำเนินการมานานและจะพยายามจะรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้คงอยู่ ซึ่งลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป โดยจะเริ่มมีฐานะมั่นคงแล้วและจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของเบนซ์อมรรัชดาซึ่งจะแตกต่างจาก BMW โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 28 - 40 ปี
นิตยสารบิส โฟกัส : ตั้งเป้าผลประกอบการในปีนี้และปีหน้าไว้อย่างไร
คุณวรรณภา : สำหรับเป้ายอดขายในปี 2556 ตั้งยอดขายไว้ 240 คัน โดยเฉลี่ยประมาณเดือนละ 20 คัน จากเดิมเคยตั้งเป้าไว้เดือนละ 30 คัน คาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงการตั้งราคาของรถใหม่ที่มีผลกระทบต่อรถมือสอง ด้านแนวโน้มการเติบโตในปี 2557 หากไม่มีสถานการณ์ใดๆ มากระทบ คาดว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1 และ 2