บีเจซีส่ง "แม๊กซ์โม่ ไจแอนท์ โรล" เขย่าตลาดกระดาษอเนกประสงค์
บีเจซี เปิดตัวกระดาษอเนกประสงค์ไซส์ใหญ่ "แม๊กซ์โม่ ไจแอนท์ โรล" ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษเฉพาะจากประเทศอิตาลี ตั้งเป้าเติบโต 2 เท่าของตลาด พร้อมเดินแผนติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ดันกำลังการผลิตพุ่งอีก 50% หนุนขึ้นแท่นบริษัทที่มีกำลังการผลิตในกลุ่มกระดาษทิชชู่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คุณตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการใหญ่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC
คุณตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการใหญ่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ “แม๊กซ์โม่ ไจแอนท์ โรล” ภายใต้แบรนด์ “แม๊กซ์โม่” ซึ่งเป็นสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มกระดาษอเนกประสงค์ในประเทศไทย ด้วยจำนวนแผ่นกระดาษที่มากขึ้นถึง 4 เท่า (เมื่อเทียบกับรุ่น Big Roll) ทำความสะอาดงานบ้านทั้งในครัวและนอกครัว อีกทั้ง ยังซับอาหารทอด อาหารมันได้ปลอดภัย ซึ่งสามารถใช้งานได้ครบจบในแผ่นเดียวตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
โดยในส่วนของกระดาษอเนกประสงค์แม๊กซ์โม่ บริษัทได้ทำการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้าใหม่ในทุก Product Line ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตกระดาษเฉพาะจากประเทศอิตาลี ได้คุณสมบัติเยื่อกระดาษที่ดีขึ้น จึงทำให้แม๊กซ์โม่ใหม่สามารถซึมซับได้ดียิ่งขึ้น เนื้อกระดาษหนาและเหนียวใช้งานคุ้มค่า พร้อมทั้งได้ออกแบบลวดลายบรรจุภัณฑ์ให้ดูโดดเด่นขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อ เข้าใจง่าย ทั้งแบบม้วนและแบบแผ่น ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยสามารถสัมผัสอาหารได้ โดยผ่านมาตรฐานอาหารและยา FDA (Food and Drug Administration) จากสหรัฐอเมริกา
“เราได้มีการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์กระดาษอเนกประสงค์ในกลุ่มแม๊กซ์โม่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้ปรับปรุงใหม่ทั้งข้างในและข้างนอก โดยเฉพาะในเรื่องของลวดลายเรามองว่าลวดลายเป็นอีกสิ่งสำคัญนอกจากจะทำให้สินค้ามีความโดดเด่นแล้ว ยังมีผลต่อประสิทธิภาพการซึมซับของกระดาษ ยิ่งไปกว่านั้นเรายังเพิ่มความทนทานให้แก่กระดาษมากยิ่งขึ้น โดยเราได้ใช้เครื่องจักรและนวัตกรรมใหม่ในการผลิต จึงทำให้ผลิตภัณฑ์แม๊กซ์โม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าเดิม” คุณตุลย์กล่าว
สำหรับ แม๊กซ์โม่ ไจแอนท์ โรลเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในตลาดกลุ่มกระดาษอเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่ต้องการใช้งานกระดาษอเนกประสงค์ในปริมาณมาก รวมถึง สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าปริมาณมากขึ้น พร้อมทั้งลดความถี่ในการเดินทาง ขณะเดียวกัน ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มแม๊กซ์โม่กำลังได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี รวมถึง ยังเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม
ขณะเดียวกัน แม๊กซ์โม่ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าของบริษัทที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกลุ่มกระดาษอเนกประสงค์แบบพับ อีกทั้ง ยังเป็นตลาดที่บริษัทให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทและการทำโปรโมชัน ซึ่งในส่วนภาพรวมของตลาดกระดาษอเนกประสงค์ปัจจุบันโตกว่า 10% โดยบีเจซีมีเป้าหมายว่าจะสามารถเติบโตมากกว่าตลาดถึง 2 เท่า หรือ 20% โดยคาดว่าภายในปี 2564 เมื่อเครื่องจักรใหม่เดินเครื่องผลิตเต็มกำลังจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดกระดาษอเนกประสงค์อย่างแน่นอน
คุณตุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทลงทุนในเครื่องจักรใหม่ โดยเป็นเครื่องผลิตกระดาษเครื่องที่ 5 หรือ Paper Machine 5 (PM 5) ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้ง และรันระบบของเครื่องจักร ซึ่งจากเดิมที่มีแผนเตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ช่วงปลายปี 2563 ได้เลื่อนไปเป็นช่วงต้นปี 2564 เนื่องจากติดปัญหาของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ช่างที่ทำการติดตั้งระบบจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทยไม่ได้
ทั้งนี้ หากทำการติดตั้งแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ทันที โดยจะช่วยให้บีเจซีมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 50% อีกทั้ง ยังส่งผลให้บีเจซีขึ้นแท่นบริษัทที่มีกำลังการผลิตของกลุ่มกระดาษทิชชู่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานการผลิตทั้งในประเทศไทย และประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ ในปัจจุบัน จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนเริ่มเปลี่ยนใหม่ ดังนั้น บริษัทจึงวางแผนที่จะปรับรูปแบบการทำตลาด โดยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้ามุ่งเน้นด้านออนไลน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันได้เปิดช็อปออนไลน์เบื้องต้น คือ Shopee และ Lazada เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค พร้อมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวกและครอบคลุม
“เรามองว่าเครื่องจักรที่ออกมารุ่นใหม่ๆ ต้องมีประสิทธิภาพดีกว่ารุ่นเก่าอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยให้สินค้าของบริษัทมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีการผลิตที่รวดเร็วและได้สินค้าปริมาณมากขึ้น รวมถึงใช้พลังงานที่น้อยลง และสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ดียิ่งกว่าเดิม เนื่องจาก เราพยายามที่จะจับตลาดให้ครอบคลุมทั้งหมด ปัจจุบัน เราผลิตกระดาษทิชชู ซึ่งถือว่าครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า และทำการตลาดที่ครอบคลุมทุกช่องทาง ทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น ระดับ Premium, ระดับ Medium และระดับ Economy” คุณตุลย์กล่าว