KJL เร่งขับเคลื่อนองค์กร นำนวัตกรรมควบคุมการผลิต
KJL ผู้นำด้านการผลิตตู้ไฟ รางไฟ เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ลุยแผนธุรกิจปี 2564 มุ่งพัฒนากระบวนการผลิต ด้วยนวัตกรรมทันสมัย พร้อมวางเป้าหมายในอนาคต คงความเติบโตต่อเนื่อง ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายงานระบบไฟฟ้า ตู้ไฟ รางไฟ และโลหะแผ่นแปรรูป เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก
คุณเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ KJL
คุณเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด หรือ KJL กล่าวว่า KJL เป็นบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจด้านการผลิตและจัดจำหน่ายงานระบบไฟฟ้า ตู้ไฟ รางไฟ และโลหะแผ่นแปรรูปมากว่า 33 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้สินค้า KJL มีความถูกต้อง แม่นยำ พร้อมส่งถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงต่อเวลา โดย KJL ถือเป็นผู้นำตลาดด้านตู้ไฟ รางไฟ และโลหะแผ่นแปรรูป ที่มีกำลังการผลิตสินค้าสูงสุดในประเทศไทย
สำหรับการดำเนินงานในปี 2564 จะเป็นการต่อยอดจากปี 2563 โดยบริษัทจะเน้นลงทุนด้านเครื่องจักรออโตเมชั่น เพื่อขยายกำลังการผลิตในส่วนของสินค้าใหม่ๆ ที่ปัจจุบันกำลังการผลิตของ KJL อยู่ที่ 15 ล้านชิ้นต่อปี แต่หลังจากที่ได้ลงทุนเพิ่มเครื่องจักร คาดว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตได้ถึง 20% นอกจากนี้ KJL ยังมุ่งพัฒนาระบบการจัดการภายใน อาทิ ระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม (ERP) ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) บริษัทมั่นใจว่าระบบการจัดการดังกล่าวจะสามารถซัพพอร์ตให้การดำเนินงานของ KJL ออโตเมทมากขึ้น และเร็วขึ้น ซึ่งทุกกระบวนการทำงานจะนำเรื่องของดิจิทัล เทคโนโลยีมาทำให้การทำงานง่ายและสะดวกขึ้นด้วย
“ปัจจุบันเรายังมีแผนดำเนินการเพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ MAI ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการภายในต่างๆ ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2565 จะดำเนินการได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เป้าหมายที่บริษัทเคยตั้งไว้เกิดขึ้นได้ล่าช้า ส่งผลให้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผกผันนี้เราจึงต้องเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ความสำคัญในแง่ของกำไรมากขึ้น โดยในปีนี้เองจะเป็นปีที่มีสินค้าใหม่ ที่เราได้ไปจอยกับพาทเนอร์ต่างประเทศ ซึ่งเป็นลักษณะลายเส้น Product ของสินค้าที่ดีลกับเขาไว้ โดยเราจะเป็นผู้ผลิตหลักในไทย และเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตที่ดีให้แก่ KJL” คุณเกษมสันต์ กล่าว
คุณเกษมสันต์ กล่าวถึงทิศทางการเติบโตในอนาคตด้วยว่า อุตสาหกรรมไฟฟ้าถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานและเป็นสิ่งที่จำเป็นของทุกคน ฉะนั้นการเติบโตในอนาคตของ KJL น่าจะสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) แม้ในปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้การดำเนินงานกับบางอุตสาหกรรมอาจดีเลย์ไป แต่ในธุรกิจของ KJL ค่อนข้างมีอุตสาหกรรมที่หลากหลายทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่างเช่นหากกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานอยู่ในช่วงขาลง แต่ด้านอสังหาริมทรัพย์อาจจะดี หรือด้านอสังหาริมทรัพย์อาจอยู่ในช่วงขาลง แต่ด้านพลังงานอาจจะดี เป็นต้น ดังนั้นในอนาคต KJL คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ KJL จะเดินหน้าธุรกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ในการมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายงานระบบไฟฟ้า ตู้ไฟ รางไฟ และโลหะแผ่นแปรรูป เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลก โดยจะการนำเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเป็นกระบวนการในการใช้ Digitalization เข้ามาเสริมในแง่ของการทำงาน พัฒนาสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองกับบริษัทโจทย์กับตลาดมากขึ้น อีกทั้ง KJL จะดึงพันธมิตรจากต่างประเทศเข้ามาร่วมเพื่อยกระดับของบริษัทด้วย