รพ.ดับเบิลยูไอเอช เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส 3/64 ตั้งเป้าโต 500 ลบ./ปี
โรงพยาบาลดับเบิลยูไอเอช อินเตอร์เนชั่นแนล (WIH) เผยโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลใกล้แล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3 ปี 2564 ผู้บริหารเผยเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจศูนย์ศัลยกรรม เพื่อรองรับความต้องการของคนไข้ทั้งไทยและต่างประเทศ วางเป้ารายได้เติบโต 500 ล้านบาทต่อปี
นพ.เชฏฐวุฒิ ตุลยพานิช กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลดับเบิลยูไอเอช อินเตอร์เนชั่นแนล
นพ.เชฏฐวุฒิ ตุลยพานิช กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลดับเบิลยูไอเอช อินเตอร์เนชั่นแนล (WIH : Watthanachet International Hospital) กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่ส่วนตัวมีความเชี่ยวชาญด้านศัลยแพทย์ตกแต่งมานานกว่า 20 ปี และมีโอกาสทำธุรกิจในลักษณะศูนย์ศัลยกรรมอย่าง Chettawut Plastic Surgery Center ทำให้เข้าใจความต้องการของคนไข้ โดยหัวใจสำคัญที่คนไข้ทุกคนต้องการเหมือนกันคือการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งในฐานะศัลยแพทย์ก็ต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด รวมถึงตอบโจทย์ในสิ่งที่คนไข้คาดหวัง และผลลัพธ์ของการผ่าตัดต้องสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อตัวเองในเชิงบวก สิ่งนี้เป็นส่วนสําคัญที่ทําให้คนไข้ได้รับความสุขและมีชีวิตที่สมบูรณ์ในรูปแบบที่ต้องการ
ดังนั้น ด้วยศักยภาพและโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดธุรกิจศูนย์ศัลยกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจเดิมของเรา ให้สามารถรองรับความต้องการของคนไข้ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ในด้านการทําศัลยกรรมที่มีความซับซ้อน สามารถให้บริการใน Scale ที่ใหญ่ขึ้น จึงได้มีการก่อสร้างโรงพยาบาล WIH ขึ้น เพื่อเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมที่ให้บริการคนไข้ได้อย่างครบวงจร ไม่ใช่แค่การทำศัลยกรรมความงามเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการให้บริการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม โดย WIH จะเป็นศูนย์รวมแพทย์เฉพาะทางและผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการคนไข้แบบครบจบในที่เดียว
นพ.เชฏฐวุฒิ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลดังกล่าว ใช้งบลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งปี 2562 ซึ่งความคืบหน้าในส่วนของโครงสร้างอาคารทั้งหมด 12 ชั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันกำลังดำเนินการในส่วนของงานระบบ การตกแต่งภายใน รวมถึงการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ โดยจะมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3 ปี 2564 นี้
ทั้งนี้ เรามั่นใจว่าโรงพยาบาล WIH จะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมและสุขภาพองค์รวมระดับพรีเมียมแบบครบวงจรแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่พร้อมรองรับผู้ป่วยใน ได้สูงถึง 60 เตียงต่อวัน (ซึ่งในอนาคตจะปรับสเกลขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับ 100 เตียงต่อวัน) Operation Room (ห้องผ่าตัดใหญ่พร้อมเทคโนโลยีและเครื่องมือทันสมัยและได้มาตรฐานสากล) 9 ห้อง และห้อง Intensive Care Unit (ห้องผู้ป่วยวิกฤตแบบ Private) 7 ห้อง และเมื่อโรงพยาบาลเปิดทำการ จะสามารถรองรับคนไข้ต่างชาติได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็บุกตลาดศัลยกรรมของไทยไปด้วย
อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโรงพยาบาลจะมีทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยสัดส่วนเป็นชาวต่างชาติ 50% คนไทย 50% และแบ่งเป็นสัดส่วนผู้ป่วยนอก 50% และผู้ป่วยใน 50% ซึ่งแตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วไป เพราะโรงพยาบาลเราเน้นการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดใหญ่และมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อยหนึ่งคืน
“หลังจากเปิดให้บริการ เราได้วางเป้าหมายรายได้ของโรงพยาบาลอยู่ที่ 500 ล้านบาทต่อปี โดยมีการแบ่งสัดส่วนรายได้จากแผนกต่างๆ เช่น ศัลยกรรมความงาม 50% ศัลยกรรมทั่วไป 15% ศัลยกรรมกระดูก 15% และอื่นๆ เช่น แผนกผิวหนัง แผนกทันตกรรม แผนกอายุรกรรมรวมกันอีก 20% ซึ่งจากเดิมเราวางฐานลูกค้าคนไทย 50% และต่างชาติ 50% แต่จากสถานการณ์โควิด -19 ทำให้เราได้ปรับกลยุทธ์มาบุกตลาดไทยเพิ่มขึ้น ไม่เฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยและทำงานย่านบางนา แต่รวมถึงพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย นอกจากนี้ สำหรับชุมชนโดยรอบ เรามีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการพัฒนาให้ดีขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการแพทย์ที่ดีจะช่วยยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนได้จริง และเมื่อโรงพยาบาลเปิดทำการก็จะก่อให้เกิดการสร้างงานอีกเป็นร้อยอัตรา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในย่านนี้อีกด้วย” นพ.เชฏฐวุฒิ กล่าว
นพ.เชฏฐวุฒิ กล่าวถึงจุดเด่นสำคัญของโรงพยาบาลด้วยว่า โรงพยาบาล WIH เรามีทีมศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ที่พร้อมให้บริการอย่างครอบคลุมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับศัลยกรรมความงาม หรือแม้แต่การศัลยกรรมสำหรับกลุ่มคนไข้ข้ามเพศ และยังมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการแพทย์ โดยร่วมมือกับโรงเรียนแพทย์และสถาบันระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณชน ที่สำคัญยังคำนึงถึงด้านความปลอดภัย ที่ต้องการให้โรงพยาบาลมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูงสุดเทียบเท่ากับมาตรฐานโรงพยาบาลในต่างประเทศ