“ไฮแอท รีเจนซี่ เกาะสมุย” พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการ
สมุย วิพรรธน์เปิดตัว “ไฮแอท รีเจนซี่ เกาะสมุย” รีสอร์ทริมทะเลแห่งใหม่ล่าสุด ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในคอนเซ็ป “Vacation Gallery” เสมือนแกลเลอรีอันมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน หนุนส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
คุณอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจ บริษัท สมุย วิพรรธน์ จำกัด
คุณอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจ บริษัท สมุย วิพรรธน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดรีสอร์ทแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ “ไฮแอท รีเจนซี่” โดยจุดเริ่มต้นมาจากธุรกิจครอบครัว และมีความตั้งใจที่จะขยายสาขาไปยังเมืองที่มีศักยภาพสูง จึงได้เลือกเกาะสมุย เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงในอนาคต พร้อมทั้ง เป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์น่าสนใจ รวมถึง เป็นทำเลที่ไม่หนาแน่นจนเกินไป ติดชายหาดส่วนตัว ติดถนนใหญ่เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง และบริเวณด้านหลังเป็นเนินเขามีธรรมชาติสวยงามล้อมรอบ อยู่ใกล้กับถานที่สำคัญหลายแห่ง จึงเป็นที่มาของการลงทุนสร้างรีสอร์ทในที่ดินแปลงนี้
สำหรับ “ไฮแอท รีเจนซี่ เกาะสมุย” เป็นอาคารความสูง 1-3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 28,000 ตารางเมตร จำนวน 140 ยูนิต มูลค่าโครงการโดยรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบัน ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยถือเป็นแบรนด์แรกของไฮแอท รีเจนซี่ ที่ตั้งอยู่บนเกาะสมุย ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในคอนเซ็ป “Vacation Gallery” เสมือนกับแกลเลอรี่อันมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติเป็นไฮไลท์ ในตอนกลางวันจะเป็นแสงธรรมชาติที่กระทบลงมาบริเวณล็อบบี้ที่มีความยาวที่สุดในโลก
ทั้งนี้ แขกผู้เข้าพักจะพบเห็นต้นยางนาที่ตั้งอยู่ภายในตัวอาคารอายุกว่า 100 ปี ในโถงต้อนรับ ในร้านอาหาร และโดยรอบบริเวณรีสอร์ท ซึ่งทีมงานตั้งใจที่จะไม่ตัดต้นไม้เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมไว้ให้ได้มากที่สุด อีกทั้ง ยังมีจุดถ่ายภาพทั้งหมด 8 จุดพร้อมให้นักท่องเที่ยวเก็บภาพความประทับใจ เหมาะแก่การพักผ่อนไม่ว่าจะมากับครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก รองรับได้ในทุกเพศ ทุกวัย
โดยรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ สมุย ห่างเพียงไม่กี่นาทีจากสนามบินนานาชาติสมุย และหาดเฉวง และมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สระว่ายน้ำ 5 สระ ห้องอาหาร 3 สไตล์ทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ และบาร์บีคิว คลับรีเจนซี่ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างชัดเจน รวมถึงกิจกรรมทางน้ำ ฟิตเนส สปา และห้องประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้ถึง 150 ท่าน
“เราได้พยายามหาแบรนด์ที่เหมาะสมทั่วโลกจนได้ค้นพบว่า “ไฮแอท รีเจนซี่” เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ และมีจุดเด่นในหลายด้าน โดยเราได้สร้างรีสอร์ทแห่งนี้เพื่ออยากให้แขกที่เข้ามาพักได้ใช้เวลาไปด้วยกัน ซึ่งเราคิดเสมอว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะดึงผู้คนไว้ให้นานถึงสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ดังนั้นจึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “Vacation Gallery” เราคำนึงถึง 3 สิ่งหลัก คือ สิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง สิ่งที่เหนือความคาดหวัง และประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับกลับไป” คุณอิทธิชัยกล่าว
คุณอิทธิชัย กล่าวต่อว่า หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป้าหมายแรก คือ พยายามดึงประชาชน หรือผู้คนในท้องถิ่นให้เข้ามาทำความรู้จักก่อน ไม่เพียงแค่การจ้างงานเท่านั้น แต่ยังเป็นในส่วนของลูกค้าด้วยเช่นกัน โดยหลังจากนั้นภายใน 2-3 เดือนถัดไปจึงจะเริ่มขยายกลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนชาวไทย และคาดว่าถ้าหากเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจึงจะขยายเป็นกลุ่มทราเวลบับเบิล (Travel Bubble) ต่อไป
ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลักด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกาะสมุยเมื่อในอดีตที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นเกาะที่อยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวของตลาดต่างประเทศเกือบ 80-90% ไม่ว่าจะเป็น โซนยุโรป หรือเอเชีย อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีความท้าทายสูง และถือได้ว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ประชาชนชาวไทยหันมาสนใจท่องเที่ยวเกาะสมุยมากยิ่งขึ้น
“ต้องยอมรับว่าการเปิดตัวในช่วงนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายพอสมควร โดยจุดประสงค์หลักของเรา ณ ปัจจุบันนี้หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ การใช้ชุมชนเป็นฟันเฟืองเพื่อขับเคลื่อนเกาะสมุยไปข้างหน้า โดยพยายามที่จะทำให้รีสอร์ทแห่งนี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนบนเกาะสมุย ไม่ว่าจะเป็น การจ้างงานคนในพื้นที่ หรือการรับนักท่องเที่ยวๆ จากที่ต่างๆ” คุณอิทธิชัยกล่าว
สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์ ปัจจุบันได้ดำเนินการผ่านทางออนไลน์ สื่อมีเดียในประเทศไทยเป็นลำดับแรก และประมาณ 2-3 เดือนต่อจากนี้ หากนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางข้ามประเทศได้ จะเริ่มทำการโปรโมทในภูมิภาคเอเชียเพิ่มเติม ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2564 เป็นต้นไปจะเริ่มสื่อสารกับทางฝั่งยุโรป ต่อจากนั้นในช่วงมกราคม 2565 จะขยับเป็นในระดับ global ตามลำดับ