November 03, 2024

“เทศบาลนครรังสิต” เผยแผนการดำเนินงานปี 2566

User Rating: 5 / 5

Star ActiveStar ActiveStar ActiveStar ActiveStar Active
 

“เทศบาลนครรังสิต” รุดหน้านโยบาย "เปลี่ยนแปลงนครรังสิต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า"

เทศบาลนครรังสิต เผยแผนการดำเนินงานปี 2566 ลุยส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสาธารณสุข สนองความต้องการของประชาชน พร้อมเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาสังคม ด้วยนโยบายเข็มมุ่ง “เปลี่ยนแปลงนครรังสิต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

          ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า เทศบาลนครรังสิต ถือเป็นเมืองขนาดใหญ่และมีประชาชนอยู่มาก ทำให้ปัญหาและความต้องการย่อมแตกต่างออกไป ซึ่งเทศบาลนครรังสิตได้ดำเนินนโยบายตามแผนการปฏิบัติงานที่ชัดเจน พร้อมให้ประชาชนทุกคนได้ส่วนร่วม เพื่อตอบสนองความต้องการ ตามแนวนโยบาย "เปลี่ยนแปลงนครรังสิต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า"

เป็นที่ทราบกันดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราทุกคนต่างต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เทศบาลนครรังสิตเราได้ให้ความสำคัญกับการรับมือกับการแพร่ระบาดตั้งแต่เริ่มแรก โดยใช้การตรวจ Rapid test ที่เป็นวิธีการตรวจที่รู้ผลได้รวดเร็ว ประกอบกับการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งนับเป็นปฏิบัติการ "นครรังสิตสู้ โควิด-19" โดยใช้แนวทาง "เน้นเชิงรุกเสริมตั้งรับ" นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ป่วย โควิด-19 ในชุมชน (Community Isolation), การรักษาผู้ป่วยจากที่บ้าน (Home isolation) และการบริการวัคชีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในพื้นที่อยู่ในภาวะดีขึ้นมาโดยตลอด

          ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวถึงการดำเนินงานในปี 2566 ด้วยว่า สำหรับในปีนี้สิ่งสำคัญของเรา คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุด คือ เศรษฐกิจฐานราก โดยเราจะพยายามใช้การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นตัวนำ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างงาน สร้างอาชีพ ฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยดำเนินผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการรำลึกเสด็จพระราชดำเนินเปิดประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ซึ่งเป็นโครงการที่ชาวนครรังสิตจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายนของทุกปี

รวมถึงกิจกรรม “ปทุมนครา ธารานฤมิตร” (เทศกาลลอยกระทง) ที่จัดขึ้นทุกปี และโครงการถนนคนเดินรังสิตที่กำลังเริ่มดำเนินการ ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ให้ทุกคนในชุมชนได้มีรายได้ และสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในเขตพื้นที่นครรังสิตได้ ปัจจุบันเราได้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณประตูน้ำจุฬาไปบางส่วนแล้ว คาดว่าในปี 2566 นี้จะเห็นภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และในอนาคตเราก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบริเวณนั้น รวมถึงสวนสาธารณะที่พร้อมให้ประชาชนชาวนครรังสิตมาใช้ประโยชน์กันด้วย

          ขณะที่ในด้านสาธารณสุข ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว โดยประชากรในพื้นที่เทศบาลนครรังสิตที่มีปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคเจ็บป่วยเรื้อรัง อย่าง เบาหวาน ความดัน ไขมัน กันค่อนข้างมาก ดังนั้นเทศบาลนครรังสิตเราจึงเห็นความสำคัญต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้ก่อตั้งโครงการ “ศูนย์การแพทย์นครรังสิต” ซึ่งศูนย์การแพทย์แบบปฐมภูมิขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่นครรังสิตและพื้นที่ข้างเคียง ในการรักษาพยาบาล ประกอบกับการสร้างเสริมสุขภาพผ่านการให้บริการที่หลากหลาย เช่น แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน และทันตกรรม

สำหรับศูนย์การแพทย์ฯ ดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่ซอยรังสิต-นครนายก 30 หรือซอยโรงสี โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ ซึ่งเราตั้งเป้าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการภายใน 2 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2567 อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการแล้วเสร็จก็จะสามารถรองรับพี่น้องประชาชนชาวรังสิต รวมไปถึงพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งจะทำให้พวกเขาสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้สิทธิ์การรักษาทั่วไปได้

“ทั้งนี้ จากการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมา เทศบาลนครรังสิต เราได้รับรางวัลองค์กรต้นแบบ Universal Design ในการประชุมวิชาการระดับชาติด้านการออกแบบเพื่อทุกคน โดยโครงการเครือข่ายศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน สำนักงานสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ หรือ สสส. ในการเป็นองค์กรต้นแบบในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อทุกคน ซึ่งเกิดจากที่เราอยากจะลดความเลื่อมล้ำในสังคม อย่างเช่นความไม่เท่าเทียมของผู้พิการ หากเราสร้างความเท่าเทียม ลดความเลื่อมล้ำในสังคมต่างๆ ได้ ชีวิตความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้น คุณภาพก็จะดีขึ้น” ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์กล่าว

ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ กล่าวทิ้งท้ายเพิ่มเติมว่า การพัฒนาเมืองในปัจจุบัน จำเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วม เพื่อนำประเด็นปัญหา ความต้องการ ร่วมถึงการแลกเปลี่ยนทรัพยากรต่างๆ โดยมีคณะผู้บริหาร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อกลั่นกรองโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดจนเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาพื้นที่ สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งหากทุกคนมีส่วนร่วม ช่วยกันพัฒนา ปรับปรุงด้านต่างๆ ชุมชนก็จะเกิดการพัฒนาไปในทางทีดี

 

 

Page Visitor

012219376
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
3088
10427
97710
27167
432245
12219376
Your IP: 34.239.153.44
2024-11-03 09:26
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.