ศรีศุภราชลุยโปรเจค “The Rice” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านสะพานควาย
ศรีศุภราชเร่งเดินหน้าก่อสร้างโครงการ “The Rice (เดอะ ไรซ์)” อาคารสำนักงานที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ในรูปทรงเมล็ดข้าว หนุนเป็น Iconic แห่งใหม่ในย่านสะพานควาย มุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก-SMEs ปัจจุบันคืบหน้ากว่า 80% คาดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ Q1/66
คุณสุธา บุญญานุรักษ์ (ซ้าย) พร้อมด้วย คุณพงศ์วิศิษฏ์ มณฑลโสภณ (ขวา) ผู้บริหาร รุ่นที่ 3 บริษัท ศรีศุภราชเคหะ จำกัด กล่าวว่า โครงการ The Rice (เดอะ ไรซ์) เป็นอาคารสำนักงานขนาดความสูง 26 ชั้น แบ่งเป็น พื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า 22 ชั้น ตั้งแต่ชั้นที่ 5-26 และเป็นพื้นที่โซนรีเทล 4-5 ชั้น รวมพื้นที่ชั้นใต้ดิน โดยบริษัทได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 ใช้งบลงทุนทั้งหมดกว่า 2,000 ล้านบาท
ปัจจุบันภาพรวมของการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% โดยในส่วนของโครงสร้างแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการตกแต่งภายใน และงานระบบ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ 100% และเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในไตรมาส 1/2566 ขณะเดียวกัน จากการประมาณการของบริษัทคาดว่าภายในปี 2566 จะมีผู้เช่าพื้นที่สำนักงานไม่ต่ำกว่า 45% และคาดการณ์ว่าจะหาผู้เช่ามาเติมเต็มพื้นที่ retail ได้ครบภายในปี 2566 เช่นกัน
สำหรับไอเดียการก่อสร้างโครงการ The Rice (เดอะ ไรซ์)” ทางโครงการได้สถาปนิกที่มีความชำนาญการออกแบบอาคารสำนักงานอย่าง A&A (Architects and Associates Co.,Ltd.) มาเป็นผู้ออกแบบอาคาร โดยให้มีเอกลักษณ์พิเศษโดดเด่นเป็นรูปทรง “เมล็ดข้าว” ที่มีความเป็นไทย ความเจริญรุ่งเรืองของพื้นที่และตรงกับชื่อของโครงการ คือ “The Rice” อีกทั้ง ยังตรงตามแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่บริเวณหัวมุมสี่แยกสะพานควายโดยมุ่งเน้นสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่โดยรอบ
นอกจากนี้ เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์อาคาร The Rice (เดอะ ไรซ์) จะเป็นอาคารสำนักงานใหม่ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้ง ด้วยรูปทรงอาคารเมล็ดข้าวจะเป็นการสร้าง Iconic Landmark แห่งใหม่ของย่านสะพานควาย ซึ่งจะสร้างการเปลี่ยนแปลงภาพจำครั้งใหม่ให้เกิดขึ้น
“การออกแบบอาคารให้เป็นรูปทรงเมล็ดข้าว สะท้อนถึงการนำเอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ดั้งเดิมของทำเลคงไว้เพราะเดิมทีทำเลแห่งนี้เคยเป็น “ทุ่งศรีศุภราช” ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทุ่งนาบริเวณสะพานควาย ที่เต็มไปด้วยการปลูกข้าวที่มีความเป็นมงคล สื่อถึงความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน” ผู้บริหารกล่าว
โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก หรือกลุ่ม SMEs เนื่องจากผู้บริหารโครงการรุ่นก่อน ผู้ก่อตั้งบริษัท คุณตาวิเชียร กลิ่นสุคนธ์ มีจุดประสงค์ต้องการที่จะให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้น และจุดศูนย์รวมของผู้คนในย่าน จึงพยายามสร้าง Ecosystem ของกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก หรือกลุ่ม SMEs ในย่านสะพานควายขึ้นมา ส่วนในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาเพื่อรองรับกลุ่มบริษัทหรือธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน
ด้านจุดเด่นของโครงการ ส่วนแรก คือ ทำเลที่ตั้ง Hybrid location ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งอนาคต และเป็นพื้นที่สำหรับการใช้ชีวิต (Lifestyle) ตอบโจทย์การทำงานและการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ โดยอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควาย ไม่ถึง 500 เมตร เดินทางสะดวก และช่วยลดระยะเวลาในการเดินทางในแต่ละวัน
ส่วนที่สอง คือ ตัวอาคารมีจุดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานในอาคารเนื่องด้วยทางโครงการได้ออกแบบตามมาตรฐาน LEED ของทางสหรัฐอเมริกา โดยเน้นไปที่การลดการใช้พลังงานโดยรวมกว่า 30% อีกทั้ง ยังมีการลดการใช้น้ำกว่า 30% เช่นเดียวกัน พร้อมกับพื้นที่สีเขียวโดยรอบอาคาร โดยออกแบบมาเพื่อช่วยลดความตึงเครียด และใช้เป็นสถานที่ผ่อนคลาย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 8 ที่สามารถจัดกิจกรรมส่วนรวมได้
ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนการประชาสัมพันธ์ โดยมุ่งเน้นสร้างการรับรู้อย่างต่อเนื่องในย่านสะพานควาย เนื่องจากต้องการจะขายจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง โดยใช้ Keyword ในการพัฒนาโครงการว่า “Rich Life Cultivated” เพราะส่วนใหญ่ผู้คนจะรู้จักย่านสะพานควายในแง่ของที่พักอาศัยมากกว่าที่จะเป็นธุรกิจให้เช่าสำนักงาน แต่เมื่อมีการขยายของเมือง มีการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง จึงทำให้พื้นที่ย่านนี้ค่อนข้างเจริญเติบโตมากขึ้นพอสมควร อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการใกล้แล้วเสร็จ และพร้อมที่จะเปิดให้บริการในปีหน้า บริษัทมีแผนที่จะทำการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้เข้าถึงผู้คนได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น