“มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์” เดินหน้าสู่การครบรอบ 55 ปี อย่างมีคุณภาพ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (PSU) พร้อมขับเคลื่อนมหาวิทยาลัย มุ่งผลิตบัณฑิตศักยภาพสูง เพื่อการพัฒนาคุณภาพของสังคม ตอกย้ำการก้าวสู่ 55 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ "มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นกลไกหลักในการพัฒนาภาคใต้และประเทศ”
ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือ PSU กล่าวว่า PSU เป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งสร้างองค์ความรู้และพัฒนากำลังคนให้มีศักยภาพสูง เพื่อการพัฒนาภาคใต้ และพัฒนาประเทศ พร้อมเป็น Global Citizen ในการเชื่อมโยงกับต่างประเทศ หรือในอาเซียน ซึ่งร่วมมือกันยกระดับด้านต่างๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานกว่า 54 ปี และกำลังจะก้าวสู่ปีที่ 55 ในปี 2566 PSU มีการผลิตบัณฑิตสร้างกำลังคนออกสู่สังคมแล้วกว่า 200,000 คน พร้อมทั้งมีส่วนสำคัญในการเข้าไปดูแลคุณภาพด้านต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น การยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับปฐมวัยในโรงเรียนสอนศาสนา โดยพัฒนาครูและระบบการเรียนการสอน ส่งเสริมความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กๆ เมื่อจบออกมาแล้วสามารถที่จะต่อยอดได้ในอนาคต
รวมถึงการดูแลเรื่องสุขภาพต่างๆ ให้แก่ประชาชน จากศักยภาพและความเชี่ยวชาญด้านโรคประจำถิ่นของ PSU ซึ่งมีโรงพยาบาลอยู่ในเครือมหาวิทยาลัยถึง 4 แห่ง ที่เปิดให้บริการดูแลผู้ป่วยได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี และการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นในช่วงวิกฤตการณ์ต่างๆ อาทิ การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการ ธุรกิจ SME 300 ราย ให้มีความเข้มแข็งสามารถต่อยอดและขยายธุรกิจได้ และการเข้าไปจัดทำโครงการท่องเที่ยว ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ในช่วงโควิด-19 การยกระดับวัตถุดิบทางธรรมชาติ อย่างการปรับคุณสมบัติทางเคมีของยางพารา ให้สามารถนำมาพัฒนาสิ่งของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ หรือนำมาปูพื้นสระสำหรับเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งถือเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบยางพาราของเกษตรกรภาคใต้ด้วย
อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ยังมีการจัดทำโครงการต่างๆ อีกหลายโครงการ ที่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคม ซึ่งในการดำเนินงานทุกด้านจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราคือ “มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นกลไกหลักในการพัฒนาภาคใต้และประเทศ”
ผศ.ดร.นิวัติ กล่าวต่อถึงการพัฒนาการเรียนการสอน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้วยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 เราได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบผสม ทั้งการเรียนออนไลน์ และออฟไลน์ในห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ รวมถึงการออกไปทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ซึ่งเรามีการจัดทำ New Learning Platform ที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้จริง ปฏิบัติจริง เพื่อให้นักศึกษาสามารถทำงานได้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการ พร้อมมีการสร้างคอนเซ็ปต์ในการเป็นผู้ประกอบการให้แก่นักศึกษาจาก Soft Skills ต่างๆ ที่ PSU ต้องการให้เกิดขึ้นจากการปฏิบัติจริง
แน่นอนว่าการปรับรูปแบบการเรียนการสอน ทางบุคลากร ครู อาจารย์ก็ต้องมีการพัฒนาเช่นกัน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้มีการจัดอบรม เตรียมความพร้อมให้กับอาจารย์ โดยเราจะมีการสร้างมาตรฐานอาจารย์มืออาชีพ ด้วยกรอบมาตรฐานสมรรถนะอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หรือที่เรียกว่า PSU-TPSF : PSU Teaching Professional Standards Framework ที่จะมาพัฒนายกระดับอาจารย์ของเราให้เป็นระดับมืออาชีพและสามารถทำงานร่วมกับภาคส่วนภายนอก ควบคู่กับจัดการเรียนรู้ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เข้าถึงกลุ่มผู้เรียน และประชาชนที่สนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เราเน้นในเรื่องของการสร้างสังคมให้มีความก้าวหน้าและเป็นสังคมแห่งโอกาส เป็นสังคมที่มีความเป็นธรรม พร้อมสร้างเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงที่ใช้นวัตกรรมเป็นฐาน และสามารถสร้างกำลังคนศักยภาพสูงให้กับประเทศ เพราะฉะนั้นการทำงานของเราจะครอบคลุมทั้งพื้นที่ภาคใต้ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และขณะเดียวกันก็สร้างความเป็น Global Citizen ให้กับคนของเรา ให้สามารถสื่อสารทำงานได้ทั่วโลกและทำให้ประเทศของเรามีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น สำหรับการก้าวสู่ปีที่ 55 ก็นับเป็น 55 ปีแห่งการสร้างประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์ ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่ยึดถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง” อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กล่าว