Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
พี.เอฟ.พี. เล็งเสริมทัพเครื่องจักรรับตลาดโต
พี.เอฟ.พี. เตรียมทุ่มงบกว่า 300 ลบ. ปรับปรุงและติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพิ่มกำลังการผลิตรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมวางแผนตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซียและเวียดนาม เพิ่มช่องทางการจำหน่าย ตอกย้ำผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเลแช่แข็งของไทย
คุณทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเลแช่แข็งของประเทศ ภายใต้แบรนด์ “พีเอฟพี” เปิดเผยว่าในปี 2558 บริษัทมีแผนที่จะทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาทในการปรับปรุงและติดตั้งเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะใช้เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่น ซึ่งจะพิจารณาเครื่องจักรตามรูปแบบการผลิตของแต่ละผลิตภัณฑ์
นอกจากบริษัทยังมีแผนจะทุ่มงบประมาณในการทำการตลาดกว่า 100 ล้านบาทเพื่อเปิดตัวสินค้าใหม่อีกประมาณ 5-10 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อปลาเช่นเดิม คาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ในปีหน้า รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเสริมอีกด้วย
คุณทวีกล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 38% ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเลแช่แข็ง โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มภัตตาคาร ลูกค้าทั่วไป และร้านอาหารชั้นนำของไทย นอกจากนี้บริษัทยังมีสัดส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 60% และอีก 40% จะส่งออกในต่างประเทศ
สำหรับเป้าหมายการเติบโต บริษัทได้ตั้งไว้เฉลี่ยประมาณ 15% ต่อปี แต่ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตเพียง 12% และคาดว่าหลังจบไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 1-2% เท่านั้น
“ในช่วงต้นปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และเริ่มกลับมาฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3 จึงส่งผลให้เรามีการเติบโตเพียง 12% อย่างไรก็ตามเรามีความพึงพอใจในเป้าหมายการเติบโตที่ได้ เนื่องจากสถานการณ์หลายๆ อย่างที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ แต่เรายังสามารถจะเติบโตได้เกือบถึงเป้าเฉลี่ย และคาดว่าปีนี้เราจะมีผลประกอบการประมาณ 4,500 ล้านบาท” คุณทวีกล่าว
ส่วนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 คุณทวีกล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมมานานแล้ว เนื่องจากบริษัทได้มีการส่งออกไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่แล้ว จึงไม่มีความกังวลในการก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแต่อย่างใด ด้านการขยายการลงทุเพิ่ม บริษัทได้มองไปที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามเป็นหลัก โดยมีการพิจารณาจากความพร้อมของสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศดังกล่าว
“ในอนาคต เราวางแผนที่จะขยายธุรกิจ โดยตั้งฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นและเพื่อบุกตลาดในโซนตะวันออกกลางด้วย ส่วนประเทศเวียดนามก็เป็นประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและกำลังการซื้อของประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น” คุณทวีกล่าว
คุณทวีกล่าวปิดท้ายว่า บริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการรักษาคุณภาพและรสชาติของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสนับสนุนและให้ความสำคัญในการตอบแทนสังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชน ซึ่งได้มีการจัดตั้งโรงเรียนในโรงงาน โดยเป็นการร่วมมือกับวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ เพื่อทำการเรียนการสอนในระดับ ปวส. อีกด้วย
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.