Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
กรมการแพทย์ เดินหน้านโยบายเทคโนโลยีเพื่อการบริการ
กรมการแพทย์ ได้รับเกียรติจากคุณสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางการขับเคลื่อนกรมการแพทย์เพื่อสุขภาพของคนไทย” ในโครงการสัมนานโยบายและทิศทางการดำเนินงานกรมการแพทย์ พร้อมเร่งเดินหน้านโยบายกระทรวงสาธารณสุข ด้านเทคโนโลยีในการพัฒนาระบบบริการ และระบบสุขภาพทางไกล ลดความแออัด ในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ 32 แห่ง
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้จัดโครงการสัมมนานโยบายและทิศทางการดำเนินงานกรมการแพทย์ ปีงบประมาณ 2563 เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากคุณสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการปาฐกถาพิเศษ “ทิศทางการขับเคลื่อนกรมการแพทย์เพื่อสุขภาพของคนไทย” เกี่ยวกับนโยบายการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาระบบบริการ และระบบสุขภาพทางไกลเพื่ออำนวยความสะดวก แก่ประชาชนให้ได้รับบริการอย่างไร้รอยต่อ ลดความแออัดและการรอคอย ของโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ 32 แห่ง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุนให้กรมการแพทย์ใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัยและรักษาโรค และพัฒนาระบบบริการให้ประชาชนเข้าถึงการรักษา
คุณสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
คุณสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนกรมการแพทย์ให้พัฒนาและมีศักยภาพเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นหลักในการให้บริการและการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่แต่ละหน่วยดำเนินการกันอยู่แล้ว เพียงแต่กระทรวงสาธารณสุข จะเข้าไปช่วยในด้านการรณรงค์เพื่อส่งเสริมและป้องกัน ให้ประชาชนหันมาดูแลและใส่ใจสุขภาพในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น โภชนาการ และการออกกำลังกาย
“สำหรับการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการรักษาพยาบาล จะต้องเต็มไปด้วยคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์เป็นโรงพยาบาลในชั้นตติยภูมิ ที่มีหน้าที่สำคัญในการดูแลรักษาโรคร้ายที่ซับซ้อน หรือเป็นเคสที่หนักๆ ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะต้องบริหารจัดการทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อมุ่งหวังให้เจ้าหน้าที่ภายในมีขวัญกำลังใจ รวมถึงมีอุดมการณ์และเชื่อมั่นในสาขาวิชาชีพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้รับการรักษา ในขณะที่ภาครัฐมีทรัพยากรจำกัด ฉะนั้นเราจึงต้องพยายามเน้นเรื่องการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาคุณภาพ และใช้เทคโนโลยีมาพัฒนา เพื่อให้คนที่รับบริการมีความพึ่งพอใจ ลดการรอคอยและแออัด แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินงาน ต้องได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วน โดยพัฒนาศักยภาพไปพร้อมกันทุกโรงพยาบาล เพื่อที่จะให้การบริการมีประสิทธิภาพ ภายใต้การส่งเสริมและป้องกันด้านสุขภาพให้กับประชาชนทุกคน” คุณสาธิตกล่าว
ด้าน นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ในผลการดำเนินงานที่ผ่านมา กรมการแพทย์ได้ทำตามแผนที่ถูกวางไว้โดยตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมา และมีเน้นเป็นพิเศษ คือการให้บริการคนไข้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ โดยได้มีการปฏิรูปการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นด้านการรักษา หรือการสื่อสารในคนไข้กับแพทย์ หรือแพทย์กับแพทย์ด้วยกัน เพื่อง่ายต่อการให้คำปรึกษาระหว่างโรงพยาบาลที่ห่างไกลกับโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญในกรุงเทพฯ
ดังนั้นจึงสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้นำเทคโนโลยี เข้ามาพลิกโฉมวงการแพทย์ของประเทศไทย ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องของการปรับเปลี่ยนระบบที่ค่อนข้างก้าวหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และทางกรมการแพทย์พร้อมดำเนินการขับเคลื่อนทิศทางการให้บริการทางการแพทย์ของประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 ของกรมการแพทย์ จะต่อเนื่องจากแผนเดิมให้ดีขึ้น โดยการรับนโยบายจากกระทรวงสารณสุข ในการลดความแออัดในโรงพยาบาล ซึ่งได้มีการเริ่มแล้ว อย่างเช่น การนัดคิวคนไข้ ที่จะมีการนัดให้เหมาะสมกับเวลา เพื่อไม่ให้คนไข้รอนาน การรับยาสำหรับคนไข้ที่ป่วยเรื้อรัง อย่างโรค เบาหวาน ความดัน โดยคนไข้สามารถไปรับยาได้เองที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ซึ่งทางโรงพยาบาลอาจจะนัดมาตรวจ 3-6 เดือนต่อครั้ง รวมถึงยังมีแผนที่จะปฏิรูป Reform ต่างๆ อันได้แก่ System Reform, Agenda Reform, Area Reform และ Function Reform ซึ่งการพัฒนาเหล่านี้จะนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
ส่วนการคาดการณ์ในอนาคตของกรมการแพทย์ นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ด้วยปัจจุบันทุกคนต้องการการบริการที่ดี แต่ด้วยความที่งบประมาณต่างๆ มีอย่างจำกัด ทุกภาคส่วนพยายามที่จะจัดสรรอย่างเหมาะสม กอรปกับพยายามที่จะปรึกษากันในเรื่องการแชร์หมอ หรือเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญ รวมถึงแชร์ Supply บางอย่าง เพื่อเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายหรือต้นทุน โดยอาจมีการนำเอาดิจิทัลเข้ามาช่วย ซึ่งทางกรมการแพทย์ กำลังทำการศึกษาอีกทางหนึ่ง ในเรื่องของ AI ที่นำเอาคอมพิวเตอร์มาอ่านฟิล์ม หรือเอาหุ่นยนต์มาช่วยในการวิเคราห์การรักษา นอกจากนี้ในอนาคตกรมการแพทย์มุ่งหวังในการเปลี่ยนการดูแลคนไข้ในโรงพยาบาล เป็นการดูแลคนไข้ภายในบ้านด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยในเรื่องของความสะดวกสบาย ลดค่าใช้จ่าย และเพื่อให้ผู้ป่วยได้รู้สึกดีที่ได้รักษาอยู่ที่บ้านตนเอง
“สุดท้ายนี้อยากจะฝากถึงผู้เข้ารับบริการทางการแพทย์ว่า เราพยายามพัฒนาโรงพยาบาลในสังกัด และสถาบันในสังกัดเราอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ก็ขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังและทำความเข้าใจในการทำงานของบุคลากร เนื่องจากทุกคนปฏิบัติงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้บริการที่ดีกับประชาชน และอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพ ใส่ใจเรื่อง 3อ 2ส ให้ดูแล เรื่องออกกำกาย เรื่องอาหาร และอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องอารมณ์ ไม่ให้เครียด โอกาสป่วยก็จะน้อยลง รวมถึงให้งดในเรื่องของสุราและยาเสพติด อันเป็นต้นเหตุของความเดือดร้อนหลายๆ เรื่อง หากประชาชนปฏิบัติตามก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องสุขภาพของทุกคนได้” นพ.สมศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.