Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
เรือด่วนเจ้าพระยา ยกระดับการให้บริการ ชูเรือด่วนติดแอร์ 4 ลำแรกของไทย
เรือด่วนเจ้าพระยา เปิดตัว เรือด่วนปรับอากาศธงแดง “Riva Express” 4 ลำแรกของประเทศไทย ในเส้นทางสาทร-นนทบุรี ที่มาพร้อมกับ 6 จุดเด่นพิเศษ แย้มแผนครึ่งปีหลัง ติดตั้งระบบ Announcement บนเรือทุกลำ เพื่อตอบโจทย์ด้านความสะดวก ปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ
คุณเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด
คุณเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา เรือด่วนเจ้าพระยาได้นำเรือด่วนปรับอากาศธงแดง “Riva Express” จำนวน 4 ลำ ทดลองให้บริการเป็นวันแรกในเส้นทางสาทร-นนทบุรี โดยมีผู้โดยสารให้ความสนใจทดลองใช้บริการเป็นจำนวนมาก ด้วยจุดเด่นต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและความสะดวกสะบายแก่ผู้โดยสาร ให้เป็นเสมือน “รถไฟฟ้าของแม่น้ำเจ้าพระยา”
โดยภายในห้องโดยสารชั้นล่างจะมีเครื่องปรับอากาศ ส่วนชั้นบนจะเป็นแบบเปิดโล่งสามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ พร้อมทั้งยังติดตั้งกล้องซีซีทีวี รวมทั้งระบบ Announcement ที่เป็นระบบการประชาสัมพันธ์และประกาศชื่อสถานีแบบสองภาษาภายในเรือด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เรือด่วนปรับอาการดังกล่าว ยังมี 6 จุดเด่นหลัก ที่ประกอบด้วย 1. ตัวเรือเป็นอลูมิเนียมทั้งลำ ต่างจากเรือลำก่อนหน้าที่เป็นไม้ทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้เรือด่วนเจ้าพระยามองภาพการพัฒนาระบบขนส่งโดยสาร ว่ามีความสำคัญและเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารที่ใช้ในการเดินทาง ให้เท่าทันระบบขนส่งทางรางหลายจุดที่สามารถเชื่อมต่อขนส่งทางน้ำได้
2. น้ำหนักเบา ทำให้ความปลอดภัยในการเดินทางสูงขึ้น เนื่องจากรูปแบบของเรือ Riva Express เป็นเรือคาตามารันแบบ 2 ท้อง เป็นเรือปรับอากาศ 2 ชั้น ความยาว 23.90 เมตร กว้าง 7 เมตร น้ำหนักประมาณ 25 ตัน ออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเรือที่เป็นอะลูมิเนียมจะมีน้ำหนักเบา และสร้างคลื่นน้อย ระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 350 แรงม้า 2 เครื่อง 3. เร็วขึ้น ด้วยความเร็วสูงสุด 18 นอต ทำให้ระยะเวลาในการเดินเรือสั้งลง ซึ่งเดิมการเดินเรือจากท่าน้ำนนทบุรีถึงท่าเรือสาทร จะใช้เวลาอยู่ที่ 50-60 นาที แต่เรือ Riva Express จะใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที และบรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้นถึง 202 คน เพิ่มขึ้น 30% จากที่เคยบรรทุกมา
4. เชื่อมต่อกับระบบขนส่งทางราง ได้แก่ ท่าเรือสาทรเชื่อมต่อกับบีทีเอสสถานีสะพานตากสิน, ท่าเรือราชินีเชื่อมต่อกับเอ็มอาร์ทีสถานีสนามชัย และท่าเรือบางโพธิ์เชื่อมต่อกับเอ็มอาร์ทีสถานีบางโพธิ์ โดยในอนาคตอาจจะมีท่าเรือพระนั่งเกล้าที่เชื่อมต่อกับเอ็มอาร์ทีสายสีม่วงเพิ่ม ขณะเดียวกันยังรองรับบัตรแรบบิทในการรับชำระค่าโดยสาร เพื่อเสริมศักยภาพให้กับเรือด่วนเจ้าพระยาและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ 5. ตัวเรือทั้ง 4 ลำ มีความสวยงามด้วยงานเขียนระดับศิลปินแห่งชาติ 4 ท่าน 4 ลายที่สะท้อนความเป็นไทยอย่างชัดเจน
และ 6. ราคาโดยสารคุ้มค่า โดยช่วงโปรโมชันในการเปิดให้บริการครั้งแรก จะคิดค่าโดยสารเพียง 30 บาท จากปกติ 50 บาท เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันเปิดให้บริการ ส่วนการให้บริการเส้นทางหลักสาทร–บางโพธิ์ให้บริการ 09.40 น.–15.10 น., เส้นทางหลักบางโพธิ์–สาทร ให้บริการ 10.00 น.–15.40 น., เส้นทางให้บริการช่วงเช้านนทบุรี–สาทร เวลา 06.30 น.–08.10 น./สาทร–นนทบุรี เวลา 07.10 น.–07.30 น. และเส้นทางให้บริการช่วงเย็นสาทร–นนทบุรี เวลา 17.30 น.–18.30 น.
“สำหรับเรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่เรือปรับอากาศ เราก็มีแผนจะติดระบบ Announcement ที่เป็นระบบแจ้งเตือนการเข้าจอดเรือเหมือนกันบนเรือโดยสารปรับอากาศ เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้สังเกตพฤติกรรมของผู้โดยสาร ที่ส่วนใหญ่จะเร่งรีบ ตรงนี้มันอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เราจึงมองว่าสิ่งที่เราควรจะต้องให้ผู้โดยสารก่อนเป็นอันดับแรกคือระบบแจ้งเตือนการเข้าจอด ผู้โดยสารจะได้รู้ว่าถึงท่าไหนแล้ว เค้าจะได้เตรียมได้ทัน และมันจะลดการเกิดอุบัติเหตุได้ อันนี้ก็เป็นแผนที่เราวางไว้ และจะได้เห็นภายในครึ่งปีหลังนี้” คุณเจริญพรกล่าว
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.