Biz Focus Magazine เป็นนิตยสารรายเดือนที่ร่วมส่งเสริมนักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ประกอบการภาคธุรกิจอุตสาหกรรม
ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐ - เอกชน และนักลงทุน
+(662) 399-1388
editor@bizfocusmagazine.com
“สโตร์เมท” น้องใหม่ อนาคตไกลแห่งวงการเหล็กกล้า รุกพัฒนาโครงสร้างภายใน ปั้นธุรกิจขยายการเติบโตอย่างมั่นคง
สโตร์เมท ย้ำศักยภาพธุรกิจในแวดวงเหล็กกล้า ชูจุดเด่น เน้นความแตกต่าง ด้านผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ “ธันวา ลงทอง” เผยแผนธุรกิจปี 64 เตรียมเปิดเยี่ยมชมโรงงานใหม่ พร้อมต่อยอดการพัฒนาโครงสร้างบริษัท ทุ่มเงินลงทุนด้านเครื่องจักร-สต็อกสินค้า รองรับการเติบโตในอนาคตอย่างมั่งคง
คุณธันวา ลงทอง กรรมการบริษัท สโตร์เมท จำกัด
คุณธันวา ลงทอง กรรมการบริษัท สโตร์เมท จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเหล็กเกรดพิเศษสำหรับเครื่องจักรอุตสาหกรรม กล่าวว่า สโตร์เมทเป็นบริษัทน้องใหม่ ที่เริ่มต้นดำเนินธุรกิจเมื่อปี 2559 จากการทำ Trading Business หรือธุรกิจซื้อมาขายไปสำหรับเหล็กกล้าเกรดพิเศษ ซึ่งต่อมาได้มีการนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นวัตถุดิบเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท โดยมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมและรองรับการเติบโตของภาคการผลิต 3 กลุ่มคือ ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าสำหรับทำแม่พิมพ์และเครื่องมือ ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าสำหรับชิ้นส่วนเครื่องจักรกล และผลิตภัณฑ์ Cutting tools สำหรับงานกลึง-เจาะ-กัด กับโลหะทุกชนิด
บริษัทเน้นการบริหารงานภายในองค์กรต่อยอดจากปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทให้เข้มแข็ง ตั้งแต่การบริหารจัดการบุคลากร การกำหนดนโยบายเรื่องแผนการทำงาน การผลิต การขนส่ง การจัด Layout การเพิ่มกำลังคน รวมถึงการเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ISO 9001
แม้สโตร์เมทจะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจได้เพียง 5 ปี แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มออโตโมทีฟ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มโรงงานไฟฟ้า กลุ่มโรงงานน้ำตาล และล่าสุดคือกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยบริษัทมีจุดเด่นในเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนี เกาหลี และจีน มีการรับประกันสูง พร้อมบริการก่อนและหลังการขาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบริการให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ จากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะ เพื่อให้ลูกค้านำสินค้าไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น จุดเด่นเหล่านี้จึงถือเป็นความแตกต่างที่สร้างความเติบโต ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจในสินค้าของสโตร์เมท
คุณธันวา กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2564 ว่า บริษัทเน้นการบริหารงานภายในองค์กรต่อยอดจากปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทให้เข้มแข็ง ตั้งแต่การบริหารจัดการบุคลากร การกำหนดนโยบายเรื่องแผนการทำงาน การผลิต การขนส่ง การจัด Layout การเพิ่มกำลังคน รวมถึงการเข้าสู่ระบบมาตรฐาน ISO 9001 ให้ได้ภายในปีนี้ และจากการเติบโตของปีที่ผ่านมา (2563) ทำให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ยังเป็นบริษัทขนาดเล็ก ระบบการบริการต่างๆ อาจยังไม่ทั่วถึง จึงทำให้ต้องมีแผนในการพัฒนาโครงสร้างภายใน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต อีกทั้งบริษัทได้ทุ่มงบลงทุนประมาณ 26 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มสต็อกสินค้าจากเดิม 40% ขยายเพิ่มเป็น 60% และสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาตัดเหล็กตามไซส์ที่ลูกค้าต้องการ
นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดโรงงานใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร อย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2564 พร้อมพากลุ่มลูกค้าหลักเข้าเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานในทุกขั้นตอนการผลิต ด้วยผลิตภัณฑ์และเครื่องจักรที่ได้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งได้รับรู้ถึงแหล่งที่มาของสินค้า การรับและส่งมอบที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของบริษัท
“ผมมองว่าในอุตสาหกรรมที่เราทำอยู่มันโตมาด้วยมาร์จิ้นที่สูงมาก ทำให้มีผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกันเยอะขึ้น อีกทั้งผู้ผลิตจากต่างประเทศที่เรานำสินค้าเขาเข้ามา ก็มาขายมาทำตลาดเองในเมืองไทย ฉะนั้นด้วยการแข่งขันที่สูง นอกจากการบริหารจัดการตามแผนที่เราวางไว้แล้ว เรายังต้องเพิ่มในเรื่องของการเซอร์วิส และเรื่องของ Brand Loyalty เพราะในเมื่อผลิตภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ตลาด ลูกค้าสามารถซื้อที่ไหนก็ได้ สิ่งที่เราต้องทำคือสร้างความแตกต่างด้วยบริการที่ดีขึ้น เราถึงได้ Grand Opening โรงงานใหม่ และสื่อสารกับลูกค้าเดิมเป็นหลัก และไม่เร่งยอดขายมาก เพื่อให้การจัดการของเราเป็นไปอย่างราบรื่น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมให้ดีที่สุดก่อน แล้วค่อยไปขยายลูกค้าใหม่ๆ เพื่อจะโตต่อไปอนาคต” คุณธันวากล่าว
สำหรับเป้าหมายในปี 2564 คุณธันวา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไม่ต่างจากปี 2563 ที่ผ่านมา คาดว่าจะบวกหรือลบประมาณ 10% เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้คาดหวังในส่วนของยอดขาย และการรุกขยายตลาดมากนัก เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆ ในปัจจุบันที่ยังไม่แน่นอน และสโตร์เมทยังถือเป็นก้าวแรกในการดำเนินธุรกิจอยู่ ทำให้เป้าหมายสำคัญที่บริษัทจะโฟกัสมากที่สุดจึงเป็นเรื่องของผลกำไร ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่สโตร์เมทดำเนินการอยู่ เป็นอุตสาหกรรมที่ต้องอิงกับโครงสร้างพื้นฐานและกำลังการผลิตของประเทศ เมื่อการผลิตหรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ในประเทศดี ก็จะส่งผลดีกับบริษัทเช่นกัน ดังนั้น แนวโน้มในแต่ละปีจะต้องดูกำลังการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นกระแสหรือเทรนด์ในปีนั้นๆ อาทิ ปี 2564 คาดว่าอุตสาหกรรมด้านยานยนต์จะฟื้นตัวกลับมา สโตร์เมทอาจจะสต็อกสินค้าสำหรับเหล็กที่เป็นความต้องการด้านยานยนต์มากขึ้น หรือในปัจจุบันภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเน้นลงทุนด้านโรงไฟฟ้า บริษัทจึงต้องผลิตสินค้าเพื่อรองรับความต้องการตามโครงการต่างๆ เป็นต้น
คุณธันวา กล่าวถึงการดำเนินงานในปี 2563 ด้วยว่า ปีที่ผ่านมา ยอดขายของบริษัทโตจากปี 2562 ประมาณ 43% ขณะที่ในส่วนของกำไร อาจยังไม่เห็นตัวเลขชัดเจน แต่บริษัทมีตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโตจากปี 2562 อยู่ที่ 15-20% โดยการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 60% ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร (อาหารสัตว์) รวมถึงการลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นเหล็กพิเศษที่บริษัทนำเข้ามาในรูปทรงที่ตอบสนองความตรงการของลูกค้า โดยไม่ต้องนำมาปรับแต่งเพิ่มเติมมาก ทำให้ช่วยลดต้นทุนของลูกค้า และสามารถผลิตชิ้นงานต่างๆ ได้เร็วขึ้น
“ในสัดส่วนการเติบโตของกลุ่มลูกค้า กลุ่มออโตโมทีฟจะโตสุดประมาณ 40% อาหาร 20% และส่วนที่เหลืออีก 40% จะเป็นกลุ่มไฟฟ้า โรงงานน้ำตาล และอื่นๆ ซึ่งในอนาคตเราอยากจะขยายไปในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ด้วย เพราะระบบการสื่อสารเทคโนโลยีในบ้านเราตอนนี้มันมีเทรนด์ที่ค่อนข้างเติบโต อย่างไรก็ตาม การที่เราโตขึ้น ลูกค้าเพิ่มขึ้นต้องบอกเลยว่าเหนื่อย เพราะเรายังค่อนข้างใหม่ ระบบการทำงานภายในเราจึงอาจมีปัญหาบ้าง ทำให้ปีนี้เราต้องเร่งจัดการโครงสร้างพื้นฐานหลายๆ ด้านเพื่อความมั่นคงในอนาคต” คุณธันวากล่าว
คุณธันวา กล่าวเพิ่มเติมถึงการดำเนินงานของบริษัทว่า นอกจากสโตร์เมทจะมีแผนหรือกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ประสบความสำเร็จแล้ว บริษัทยังมีพันธกิจสำคัญคือ ต้องการสร้างความแตกต่างและกำหนดรูปแบบการให้บริการไปสู่ระดับที่เหนือกว่า พร้อมทั้งวิสัยทัศน์ที่บริษัทมุ่งเน้นอย่างยิ่ง ในการเป็นที่จดจำและเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการทำธุรกิจที่โปร่งใส มีความจริงใจ และเที่ยงตรงต่อลูกค้า ยึดมั่นในรูปแบบของ Global Partnerships โดยไม่มองผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจเดียวกันเป็นคู่แข่ง ทั้งยังเห็นความสำคัญของพนักงาน มีการสนับสนุนส่งเสริมเพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ ตลอดจนการทำเพื่อสังคมตามกำลัง ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นการขับเคลื่อนสโตร์เมทให้เดินหน้าต่อไปอย่างก้าวหน้าและมั่นคง
Selfies labore, leggings cupidatat sunt taxidermy umami fanny pack typewriter hoodie art party voluptate. Listicle meditation paleo, drinking vinegar sint direct trade.
www.themewinter.comMake sure you enter all the required information, indicated by an asterisk (*). HTML code is not allowed.