November 23, 2024

JSP แย้ม Q4 ออเดอร์ OEM พุ่ง

Star InactiveStar InactiveStar InactiveStar InactiveStar Inactive
 

JSP แย้ม Q4 โค้งสุดท้ายปี 65 ผลงานโตรับกำลังซื้อฟื้น ออเดอร์ OEM พุ่ง พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่บุกตลาด

บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี หรือ JSP” เดินหน้ามุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ แย้มแนวโน้ม Q4/65 ผลงานฟื้นตัว รับกำลังซื้อฟื้น ดันออเดอร์ OEM ยอดคำสั่งซื้อทะลัก ขณะที่ผลงาน Q3/65 มีรายได้ 104.83 ลบ. ขาดทุนสุทธิ 4.7 ลบ. ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า สาเหตุหลักจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ค่าครองชีพของผู้บริโภคสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง และมีค่าใช้จ่ายการโฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในการขยายฐานลูกค้าระยะยาว ล่าสุดบอร์ดอนุมัติซื้อคลังสินค้า มูลค่าโครงการประมาณ 50 ลบ. เพื่อจัดเก็บและกระจายสินค้าให้เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจตามแผนระยะยาว

ดร.สิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ผู้ดำเนินธุรกิจพัฒนา ผลิตและจำหน่าย ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/65 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 คาดว่าจะฟื้นตัว เพราะเป็นไฮซีซันของธุรกิจ อีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม จากเจ้าของแบรนด์ซึ่งเจรจากันในช่วงครึ่งปีแรก สินค้าจะถูกผลิตและนำออกสู่ตลาดจำนวนมาก  และคาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาและส่งผลให้ออเดอร์ OEM เพิ่มขึ้นสอดคล้องกันไป ทั้งนี้ มองว่าช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจ OEM และการเปิดตัวสินค้าใหม่พร้อมบุกตลาด

ปัจจุบันสัดส่วนรับจ้างผลิต (OEM) มีออเดอร์เกิน 50% ซึ่งบริษัทมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์สินค้าภายใต้ แบรนด์ของตัวเอง (Own Brand) คาดปีนี้จะเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบริษัทมีผลิตภัณฑ์ Own Brand ติดตลาด และสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทได้ค่อนข้างสูงในอนาคต คาดสัดส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์ Own Brand จะเพิ่มขึ้นมาใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ OEM ที่ 50:50 จากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายที่ 38.2%

ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิตและจำหน่ายยา และอาหารเสริมครบวงจร โดยร่วมมือสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐและเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อยกระดับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อพัฒนาสินค้าภายใต้ Own Brand

สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย  104.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา สาเหตุหลักเกิดจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภท OWN Brand ซึ่งมาจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในลูกค้าวงกว้าง มีผลขาดทุนสุทธิ  4.7 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งขาดทุนสุทธิจำนวน 7.1 ล้านบาท เพราะมีต้นทุนในการจำหน่ายลดลง แต่ค่าบริหารเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจตามแผนงาน อย่างไรก็ดี กำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 55.6% ในงวดไตรมาส 3 นี้ ส่งผลให้ EBITDA ของบริษัทเพิ่มขึ้นจำนวน 9.8 ล้านบาท

โดยรายได้และกำไรที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เช่น กำลังซื้อลดลง ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เป็นต้น โดยบริษัทได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อลดผลกระทบทางลบจากสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การขยายช่องทางการตลาดแบบออนไลน์ การควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและค่าก่อสร้าง เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ประเภทอาคารคลังสินค้าซึ่งจะก่อสร้างบนที่ดินตั้งอยู่ที่เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร และเป็นบริเวณเดียวกันกับสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทฯมีพื้นที่จัดเก็บและกระจายสินค้าให้เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจตามแผนธุรกิจระยะยาว คลังสินค้าดังกล่าวสามารถรองรับการจัดเก็บสินค้าทุกประเภท ยาแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยคู่สัญญาในโครงการนี้ทั้งหมดไม่เป็นบุคคลเกี่ยวโยงกับบริษัทฯ โดยแหล่งเงินทุนในการทำรายการนี้จะมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีแผนที่จะใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อการดำเนินการตามโครงการนี้ หากไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

Page Visitor

012556269
Today
Yesterday
This Week
This Month
Last Month
All days
9965
19290
117562
364060
432245
12556269
Your IP: 3.145.196.150
2024-11-23 12:23
© 2024 Biz Focus Magazine All Rights Reserved.