“QTC” ส่งซิกจ่อปิดดีล EV ส่งท้ายปี ย้ำปี 65 รายได้แตะ 1.2 พันลบ.
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (“QTC”) ส่งซิกเดินหน้าต่อยอดการลงทุนธุรกิจ EV คาดเตรียมปิดดีลข่าวดีโค้งสุดท้ายนี้ และพร้อมลุยเปิด EV Charging Station ให้ครบ 150 หัวจ่ายทั่วประเทศหลังเปิดเฟสแรกไปแล้ว 4 หัวจ่าย ตอกย้ำรายได้ปีนี้แตะ 1,200 ล้านบาทตามคาด หลังแจ้งงบ 9 เดือนแรกปี 2565 รายได้รวม 881.30 ล้านบาท และกำไร (เฉพาะกิจการ) 69.14 ล้านบาท จากการขายหม้อแปลง-ธุรกิจเทรดดิ้งที่ฟื้นตัวหลังสถานการณ์ โควิดคลี่คลาย
นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหม้อแปลงไฟฟ้า เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2565 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการธุรกิจพลังงาน เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ให้กับ QTC อย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้มีการเปิดสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ภายใต้บริษัทร่วม PPWE 2 สถานีแรก ณ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์ โนนสูง และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงคาลเท็กซ์ วิภัชรุ่งเรือง จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในเร็วๆนี้เตรียมขยายเพิ่มอีก 2 สถานี ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นในช่วงปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566 นอกจากนี้บริษัทฯมีแผนในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มให้ครบ 50 สถานี หรือ รวมทั้งหมด 150 หัวจ่าย ครอบคลุมทั่วประเทศ
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและต่อยอดด้านการลงทุน ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ EV เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในเร็วๆ นี้จะมีการร่วมลงนามความร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทพันธมิตรชั้นนำรายหนึ่ง ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ EV ซึ่งเชื่อว่าหากดีลการเซ็นสัญญาแล้วเสร็จ จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯสู่รายได้ที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
“จากการเติบโตของอุตสาหกรรม EV ทั้งจากนโยบายของภาครัฐ และจำนวนรถ EV ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในส่วนของ EV แบรนด์ Wallbox บริษัทฯมีการทำการตลาดแบบเชิงรุกเพิ่มขึ้น ในกลุ่มที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการจำหน่ายได้ในปี 2566 เป็นต้นไป”
สำหรับโครงการพัฒนาและผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าชีวภาพ โดยใช้วัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรมาสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนวัตกรรมสีเขียว ภายใต้โครงการพัฒนาและผลิตน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า จากการร่วมมือกับ BBGI และ SCGC นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตและตรวจสอบคุณสมบัติสำเร็จและได้ผลการตรวจสอบออกมาในเกณฑ์ที่ดี พร้อมต่อยอดไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ หากผลการศึกษาออกมาสำเร็จ จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าของไทย และที่สำคัญยังช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่มีการเพาะปลูกปาล์มน้ำมันให้มีการใช้งานมากขึ้น
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร QTC กล่าวว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม เท่ากับ 881.30 ล้านบาท และมีกำไร(เฉพาะกิจการ) 69.14 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 563.62 ล้านบาท และเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเทรดดิ้ง ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ให้กับ LONGI Solar การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter 233.78 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ(เฉพาะกิจการ) ที่ 69.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% (YoY)
ขณะที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 333.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา 11.3 % (QoQ) โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 195.06 ล้านบาท ลดลง 18 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) และเพิ่มขึ้น 5 %(QoQ) จากช่วงเดียวกันของไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ 111.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับรางวัล SET Awards 2022 ในกลุ่มรางวัล Business Excellence ประเภท Best Investor Relations Awards ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นองค์กรที่มีความโดดเด่น ในด้านการดำเนินกิจกรรมนักลงทุนสัมพันธ์ และให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมขององค์กร ภายใต้การดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน “Superior Long-term Performance”โดยรางวัลดังกล่าวถือว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติ ที่จะช่วยผลักดันให้QTC ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแรงและมั่นคงได้อย่างยั่งยืน